รมว.การอุดมศึกษาฯ ถกอธิการบดีทั่วประเทศดัน 4 บิ๊กโปรเจค

FacebookTwitterLine

“เอนก เหล่าธรรมทัศน์” รมว.การอุดมศึกษาฯ ถกอธิการบดีทั่วประเทศดัน 4 บิ๊กโปรเจค “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล – พลิกโฉมมหาวิทยาลัย – เศรษฐกิจเชิงพื้นที่ – อว.ส่วนหน้า” ดึงศักยภาพมหาวิทยาลัยร่วมพัฒนาประเทศ ผลิตบัณฑิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด เน้นการเรียนรู้แบบลงพื้นที่ทำงานจริง ใช้นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มพร้อมพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพยุคใหม่ ด้านอธิการบดี ขอ ”ห้องแล็ป” เพิ่มแนะดึงเอกชนร่วมกับมหาวิทยาลัยพัฒนาประเทศ

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 : ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในการประชุมหารือเชิงนโยบาย เรื่องบทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในการขับเคลื่อนประเทศ ณ ห้องประชุมฯ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา ถนนศรีอยุธยา โดยมี อธิการบดีและผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้าร่วมการประชุมฯ

ภายหลังการประชุม รมว.อว. เปิดเผยว่า อว. มีนโยบายในการสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่

1.มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ

2.การพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University)

3.มหาวิทยาลัย : ขั้วความเจริญเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ (University as a Marketplace)

4.อว. ส่วนหน้า ซึ่งทั้ง 4 เรื่อง ตนได้ให้แนวทางในการดำเนินงาน

ดังนี้ 1.โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบลฯ มีความเกี่ยวข้องกับโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้า โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งการดำเนินงานในลักษณะนี้ จะทำให้มหาวิทยาลัยมีโอกาสและบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาจังหวัดที่ชัดเจน โดยให้ อว.ส่วนหน้าทำหน้าที่เป็นหน่วยราชการภูมิภาคของ อว. เพื่อพัฒนาทั้งจังหวัดและพัฒนามหาวิทยาลัยเอง

2.ให้ปรับรูปแบบการทำงาน จากเดิมที่เป็นการพัฒนาแบบพื้นฐาน ใช้แรงงงานราคาถูก เปลี่ยนเป็นการพัฒนาที่ใช้นวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเน้นการทำงานแบบรวมพลังของคนในมหาวิทยาลัย เพื่อการพัฒนาประเทศให้พ้นกับดักรายได้ปานกลาง

3.มหาวิทยาลัยมีงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายเรื่องสามารถนำมาต่อยอดและใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคมได้ แต่ยังขาดการประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของ อว. ทำให้ไม่เกิดผลกระทบในวงกว้างเท่าที่ควร ดังนั้น ควรมีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอผลลัพธ์ ผลกระทบที่ประชาชนได้รับมากกว่าข้อมูลทางสถิติทั่วไป

4.การพลิกโฉมมหาวิทยาลัย เป็นการปรับบทบาทของมหาวิทยาลัยให้มีความสำคัญมากขึ้นในการพัฒนาประเทศ บัณฑิตได้รับการพัฒนาทักษะ ที่จำเป็นสำหรับการมีงานทำ

รมว.อว. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย : ขั้วความเจริญเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ (University as a Marketplace) เนื่องจากงบประมาณทั้งในส่วนของ อว. และในส่วนของบุคลากรของ อว. เองสามารถผลักดันให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ได้ ทั้งในส่วนของตลาดกายภาพ ตลาดออนไลน์ หรือการพัฒนาศักยภาพของผู้ขายในตลาดได้ ซึ่งตนเชื่อว่าหากมีการปรับแนวคิดและแนวทางในการดำเนินงานจะส่งผลให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถผลิตบัณฑิตได้ตรงตามความต้องการของตลาด และสอดรับกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากมีการลงพื้นที่เพื่อดำเนินการตอบโจทย์ปัญหาของพื้นที่/ชุมชน อีกทั้งยังก่อให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย ให้มีการเรียนรู้จากการลงพื้นที่ปฏิบัติจริงมากกว่าการเรียนรู้แต่เพียงทฤษฎีในห้องเรียนเท่านั้น

ดร.เอนก กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีนายกสภาและอธิการบดีมหาวิทยาลัยหลายท่านได้เสนอแนะความคิดเห็นเพิ่มเติม อาทิ ในการดำเนินงานแม้จะมีเป้าหมายเรื่องการจ้างงาน แต่ควรเน้นเรื่องการพัฒนาทักษะที่จำเป็น สำหรับการทำงาน และการใช้ชีวิตรวมไปถึงการมีห้องแล็ปที่ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ และควรให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทร่วมกับมหาวิทยาลัยในการพัฒนาประเทศ ขณะที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีความพร้อมไม่เท่ากัน ดังนั้น การจัดสรรทรัพยากรและการประเมินผลก็ควรจะต้องจำแนกตามความเชี่ยวชาญของแต่ละสถาบัน มหาวิทยาลัยต้องดำเนินภารกิจของสถาบันทั้งในส่วนของการผลิตบัณฑิตและการพัฒนาความเป็นเลิศ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนพื้นที่ได้ และเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควรมีความต่อเนื่องในการดำเนินโครงการ เป็นต้น

——————–

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *