

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์สุนทร สุนทรชาติ ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานครสูง กล่าวในเวทีการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2021 รอบชิงชนะเลิศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันว่า กรุงเทพมหานครมีความยินดีต้อนรับสมาชิก TO BE NUMBER ONE ผู้มีความสามารถและมีใจรักการเต้นและมุ่งมั่นสู่ความเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติดสู่การแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2021 รอบชิงชนะเลิศเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการเปิดเวทีให้สมาชิกเยาวชนของเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้มารวมตัวแสดงพลังร่วมทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ในสิ่งที่ชื่นชอบเหมือนๆกัน เป็นกิจกรรมที่สร้างให้เกิดความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา มีความมุ่งมั่นไปสู่ความสำเร็จ แม้ผลการแข่งขันในวันนี้ จะมีทีมที่สมหวังก็ขอแสดงความยินดีด้วย บางทีมที่ผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน ขอให้มีความพยายามฝึกฝนพัฒนาต่อไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ทุกคนจะได้รับนั้นคือ ความทรงจำและมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนใหม่ที่มาจากหลายจังหวัด ประสบการณ์ที่พิเศษจากการได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ขอให้ทุกคนโชคดี

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตในฐานะเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE ได้ดำเนินงานสนองพระดำริของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ทรงเข้าใจในธรรมชาติของเยาวชน และทรงเชื่อมั่นในพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ทรงมีพระดำริให้พัฒนาเยาวชนโดยผ่านกิจกรรม เพราะทรงเห็นว่ากิจกรรมจะช่วยให้เยาวชนมีสังคมที่ดี ช่วยให้ได้รับประสบการณ์ที่ดี มีโอกาสได้แสดงศักยภาพและเห็นคุณค่าในตนเอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจในการดำเนินชีวิตในทุกด้าน
การแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2021 เป็นหนึ่งในหลายกิจกรรมของโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่มีรูปแบบและกระบวนการที่เสริมพลัง ความคิดสร้างสรรค์ของวัยรุ่นและเยาวชน ตามแนวพระดำริขององค์ประธาน ผลสำเร็จจากการจัดการแข่งขัน ที่ผ่านมาพบว่าเยาวชนมีพัฒนาการที่เพิ่มขึ้น ทั้งด้านทักษะทางสังคมและการเต้น น้องๆเก่งขึ้นเรื่อยๆจนเป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้วันนี้จะมีบางทีมที่ไม่ได้เข้าสู่การแข่งขันในรอบต่อไป ขอให้ทุกคนจงภาคภูมิใจในความสามารถของตนเอง ที่มุ่งมั่น ตั้งใจทำสิ่งที่เรารักเราชอบ และการได้เข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมในโครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในครั้งนี้

ด้านหม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ เลขาธิการมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE และที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE กล่าวว่าการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2021 รอบชิงชนะเลิศเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นภาคสุดท้ายของการแข่งขัน ในปีนี้ มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 61 ทีม ซึ่งผลการแข่งขัน รุ่น Junior รางวัลที่ 1 ทีมศูนย์เยาวชนคลองกุ่ม สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ทีมอิสระ,รางวัลที่ 2 ทีม Upperhand Junior สถาบัน Upperhand Studio ทีมอิสระ,รางวัลที่ 3 ทีม Power Plus Team โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงเชิงบวก ทีมอิสระ,รางวัลชมเชย ทีม Monster Kids สถาบัน Next Step Studio ทีมอิสระ และทีม MY ANGEL โรงเรียนวัดราษฎร์รังสรรค์ (ขันมาอนุราษฎร์) จังหวัดสมุทรสาคร รุ่น Pre-Teenage รางวัลที่ 1 ทีมGeneration Zoom สถาบัน Studio Zoom ทีมอิสระ และทีม Burgundy Red โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงเชิงบวก ทีมอิสระ,รางวัลที่ 3 ทีม Double S Junior สโมสรกีฬาเขตบึงกุ่ม ทีมอิสระ และทีม Upperhand Youngblood สถาบัน Upperhand Studio ทีมอิสระ, รางวัลชมเชย ทีมThe Brooklyn ทีมอิสระ รุ่น Teenage รางวัลที่ 1 ทีม Zoom N'45 Degree สถาบัน Studio Zoom และ 45 Degree Studio ทีมอิสระ รางวัลที่ 2 ทีม The Zoo Thailand ทีมอิสระ และทีม MAX SQUAD ทีมอิสระ,รางวัลที่3ทีม HARMONIZE มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ทีมอิสระ และทีม AERGOR ทีมอิสระ, รางวัลที่ 4 ทีม Synchonize โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวังนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

นางสาวฐาวดี ทองขะโถ “ครูกวาง” ครูผู้คุมทีม Burgundy Red บอกว่าเวที TO BE NUMBER ONE เป็นเวทีที่ทำเพื่อเด็กจริงๆ เพราะไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีค่าสมัคร ส่วนที่มาของการนำเด็กมารวมทีมแข่งขันในเวที TO BE NUMBER ONE ครั้งนี้ ครูกวางเล่าว่าแม้เด็กส่วนใหญ่จะมีความพร้อมแต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการปรับตัว มีความเอาแต่ใจสูง และมีความมั่นใจสูง การมาแข่งขันในเวทีนี้จะทำให้เขารู้ว่า แม้พวกเขา จะคิดว่าตนเองเป็น THE BEST แต่ในเวทีนี้เขาสามารถเจอคนที่เก่งกว่าได้ ส่วนประโยชน์ของการเต้นที่เด็กๆได้รับนั้นนอกจากจะช่วยให้ห่างไกลจากยาเสพติดแล้ว ที่เห็นได้ชัดคือช่วยลดเวลาหน้าจอมือถือของเด็กๆลงได้ เด็กๆมีการพูดคุยกันในทีมกันมากขึ้น รู้จักดูแลซึ่งกันและกัน
ด.ญ.อนัญญา ทรัพย์สุขดี “น้องอันดามัน” เยาวชนจากทีม Burgundy Red รางวัลที่ 1 รุ่น Pre-Teenage เล่าว่าตนเองเรียนเต้นมาตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล นอกจากจะชอบการเต้นมาตั้งแต่เด็กๆแล้วพ่อแม่ยังให้การสนับสนุนส่งให้เรียนที่โรงเรียนสอนเต้นด้วย ประโยชน์ของการเต้นสำหรับตนเองนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้กล้าแสดงออก การเต้นทำให้ได้โชว์ความสามารถและได้มีโอกาสมาร่วมการแข่งขัน ในเวที TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE 2021 ประสบการณ์ที่ได้จากเวทีนี้ ตั้งใจจะนำไปพัฒนาตัวเองให้สามารถก้าวไปแข่งขันในระดับประเทศต่อไป

นายณัฐพนธ์ วรรณญวน “ครูนัท” ครูสอนเต้นทีม Upperhand Junior รางวัลที่ 2 รุ่น Junior เล่าว่าตนเองมีความผูกพันกับโครงการ TO BE NUMBER ONE มานาน เพราะเข้าโครงการ มาตั้งแต่เด็ก และได้เข้าแข่งขันเต้นในนามทีมออฟอร์วัน รุ่น Teenage สามารถพูดได้ว่า TO BE NUMBER ONE เป็นโครงการที่ไม่ธรรมดาสามารถพัฒนาเด็กไทยได้เยอะมาก ในแต่ละปีเด็กนักเต้นในโครงการมีการพัฒนาความสามารถเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆและสามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ สำหรับการมาแข่งขันเต้นในครั้งนี้เป็นการสานความฝันให้กับน้องๆในทีมที่รักการเต้นได้มารวมตัวกัน โดยใช้ธีมการเต้นเป็นความน่ารักสดใส อยากให้โชว์ ดูสนุก เสริมด้วยการโชว์ความแข็งแรงของร่างกายและความสามารถพิเศษของน้องๆด้วย

นายชัยเมศร์ เจริญนิธิพัทธ์ “ครูต้อง” ครูสอนเต้นทีม Zoom N'45 Degree รางวัลที่ 1 รุ่น Teenage เล่าว่าตนเองเป็นสมาชิกศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE สาขาซีคอนสแควร์มาตั้งแต่อายุ 16 ปี ได้เรียนรู้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านการเต้น จนปัจจุบันอายุ 30 ปี ได้พัฒนาตนเองและมาเป็นครูสอนเต้นให้กับน้องๆ ปีนี้ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันเป็นปีแรก ส่งทั้งหมด 2 รุ่น คือ รุ่น Pre-Teenage ใช้ธีมการเต้นเป็นเพลงซาวน์สตาร์เทค อวกาศ จักรวาล และ รุ่น Teenage ใช้ธีมการเต้นเป็นเพลงไทยลูกทุ่งและมีการออกแบบท่าเต้นให้สนุกสนาน มีสีสันให้มีความแตกต่างจากทีมอื่นๆที่ลงแข่งขัน “ภูมิใจครับที่ทีม Zoom N'45 Degree ได้รับรางวัลที่ 1 ต้องขอบคุณทูลกระหม่อมและโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ช่วยให้สามารถค้นหาตนเองจนเจอ ถ้าไม่มีโครงการนี้ตนเองคงไม่ได้มาเป็นครูสอนเต้นเหมือนทุกวันนี้คงไปทำอาชีพอื่นแล้ว”

นายพงศ์ภัค สมุทรพูนไพศาล “ไช้” หัวหน้าทีมและครูสอนเต้นทีมThe Zoo Thailand รางวัลที่ 2 รุ่น Teenage เล่าว่าตนเองเป็นเด็ก TO BE NUMBER ONE และแข่งเต้นในโครงการ TO BE NUMBER ONE มาตั้งแต่อายุ 13 ปี จนปัจจุบันอายุ19 ปี การเต้นในโครงการ TO BE NUMBER ONE ถือเป็นเวทีที่เปิดกว้างให้กับทุกคน และเปิดประสบการณ์ พัฒนาต่อยอดไปสู่การเต้นในเวทีระดับประเทศ สำหรับตนเองการเต้น ในโครงการ TO BE NUMBER ONE ได้นำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตมากมาย ทำให้รู้จักจัดการชีวิตด้วยตนเอง ทำให้เรารู้จักปรับตัวเข้ากับผู้คนในสังคม ช่วยให้การออกไปใช้ชีวิตข้างนอกง่ายขึ้น อยู่ที่ไหนก็จะมีแต่คนรัก เพราะเราวางตัวเป็น อยากขอบคุณองค์ประธานโครงการฯที่ทำให้มีโครงการดีๆ ช่วยผลักดันวงการเต้นไทย ให้สูงขึ้น ทำให้เด็กได้ประโยชน์จากการเต้นมากมายและได้พัฒนาตนเองทำในสิ่งดีๆ