กรมอนามัย – ททท. ลงพื้นที่ตรวจประเมิน ‘ภัตตาคาร – ร้านอาหาร’ ที่ได้รับมาตรฐาน SHA สกัดโควิด-19 ระลอกใหม่

              กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลงพื้นที่ตรวจประเมินผู้ประกอบการประเภทภัตตาคารและร้านอาหาร ที่ได้รับมาตรฐาน SHA เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ   ป้องกันโควิด-19 ระลอกใหม่

              นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นที่ตรวจประเมินผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA ร่วมกับนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ณ ร้านอาหารสามเสนราชพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี และร้านอาหารสีฟ้า (สาขาสยาม) กรุงเทพมหานคร

             

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขับเคลื่อนการดำเนินงานมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA) เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และให้เกิดการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ในการป้องกันโรคของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ใช้บริการ โดยมีส่วนร่วมในการจัดทำมาตรฐาน SHA โดยนำหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ทั้งด้านสุขอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อมของกรมอนามัย เช่น การจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร การจัดการขยะ ส้วม สุขาภิบาลอาหารในโรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น รวมถึงการให้คำปรึกษา คำแนะนำด้านวิชาการเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรฐาน SHA แก่ผู้ประกอบการ ภายใต้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 โดยในส่วนภัตตาคาร ร้านอาหาร มีคำแนะนำสำหรับผู้จัดการร้านอาหาร คำแนะนำสำหรับผู้สัมผัสอาหารหรือผู้ปฏิบัติงาน และคำแนะนำสำหรับผู้บริโภคให้ปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด ซึ่งข้อมูลจาก Thai Stop Covid ของกรมอนามัย พบว่า สถานประกอบการร้านอาหารดำเนินการตามมาตรการได้ดี 3 ลำดับแรก คือ ทำความสะอาดและกำจัดขยะอย่างถูกต้องทุกวัน ร้อยละ 99.79 ทำความสะอาดพื้นผิวจุดสัมผัสร่วม ร้อยละ 99.76 และสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ร้อยละ 99.48

              “ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ กรมอนามัยขอเน้นย้ำภัตตาคารและร้านอาหาร รักษามาตรฐานความปลอดภัย มั่นใจไร้โควิด-19 การ์ดต้องไม่ตก ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ ที่ยังต้องคุมเข้มเรื่องการคัดกรอง ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากพบว่ามีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสชาติ เหนื่อยหอบ หรือมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป งดให้บริการและไปพบแพทย์ นอกจากนี้ผู้ให้บริการและผู้บริโภคจะต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้าไปในภัตตาคาร ร้านอาหาร ต้องล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนและหลังการใช้บริการ รวมทั้งเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1-2 เมตร และจัดให้มีจุดลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่ใช้บริการ เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรคโควิด-19” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

              ทางด้าน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวว่า การตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA มี 2 แนวทาง ได้แก่ 1) การตรวจโดยคณะกรรมการตรวจประเมิน และ               2) การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า Voice of Customer (VOC) เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงให้สถานประกอบการดำเนินการตามมาตรฐาน SHA เพื่อลดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งกิจการประเภทภัตตาคาร และร้านอาหาร      เป็นกิจการที่ได้รับมาตรฐาน SHA มากเป็นอันดับ 3 ดังนั้น มาตรฐาน SHA จึงเปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ที่แสดง         ให้เห็นว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสินค้าและบริการ รวมทั้ง      ด้านสุขอนามัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมีมาตรการทางสาธารณสุข   เป็นหัวใจหลัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะมาใช้สินค้าและบริการนั้น ๆ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ได้     ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน SHA กว่า 8,000 รายทั่วประเทศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *