หมอยง วิเคราะห์สาเหตุผู้สูงอายุชาวนอร์เวย์เสียชีวิต 23 คนหลังรับวัคซีนโควิด 19 ของบริษัทไฟเซอร์ อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่นไม่เกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด 19 แนะรอผลตรวจสอบชัวร์สุด
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 18 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ. นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เกี่ยวกับเรื่องอาการไม่พึงประสงค์ อาการแทรกซ้อนของวัคซีน covid 19 ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในผู้สูงอายุในประเทศนอร์เวย์ จำนวน 23 ราย จนทำให้เกิดความวิตกกังวลต่ออาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนของ ไฟเซอร์ ว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า อาการไม่พึงประสงค์ หลังให้วัคซีนไม่จำเป็นต้องเกิดจากวัคซีน หรือแพ้วัคซีน ซึ่งเรื่องนี้จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดจากกรรมการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนที่ให้หรือไม่ โดยในการศึกษาวัคซีนใหม่แม้ว่าจะผ่านระยะที่ 3 แล้ว จะต้องมีการตามอาการไม่พึงประสงค์หลังนำไปใช้ ต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปี อย่างเช่นในนอร์เวย์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
จากประสบการณ์การศึกษาเกี่ยวกับวัคซีนมากว่า 30 ปี พบว่าแม้หลังฉีดวัคซีนผู้ที่รับวัคซีนเดินกลับบ้านไปตกท่อก็จะต้องรายงานว่าเป็นอาการไม่พึงประสงค์ และหาสาเหตุของการตกท่อ ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ ให้กรรมการกลางที่ดูแลด้านความปลอดภัยมาช่วยพิจารณาด้วย เพราะวัคซีนที่ฉีด อาจทำให้เวียนศีรษะแล้วเดินตกท่อก็ได้
แต่หากเกิดกรณีฉีดวัคซีนแล้วมีการตายถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เคยมีอาสาสมัครฉีดวัคซีนแล้วอีก 2 วันเสียชีวิต ก็จะมีการรายงานทันที ที่ได้รับทราบการเสียชีวิต แม้ว่ารายนี้จะถูกยิงตาย แต่กรรมการก็จะต้องหาสาเหตุว่า วัคซีนที่ฉีดอาจจะทำให้เกิดความก้าวร้าว ที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการถูกยิงหรือไม่
ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ป่วยหลังฉีดวัคซีนที่ผมดูแลอยู่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก็จะต้องตรวจสอบรายละเอียดว่าวัคซีนทำให้อาการง่วงจนเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุหรือไม่
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของผู้สูงอายุในนอร์เวย์ หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งวัคซีนชนิดนี้ไม่ได้อยู่ในแผนการให้วัคซีนของประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้นี้ มีผู้สูงอายุส่วนใหญ่อายุมากกว่า 80 ปี และส่วนมากจะมีโรคประจำตัว ซึ่งในภาวะปกติในสถานดูแลผู้สูงอายุก็มีการเสียชีวิตอยู่ประจำอยู่แล้ว แต่หากเกิดขึ้นหลังให้วัคซีนก็จะต้องมีการพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตมาจากวัคซีนหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบว่า การเสียชีวิตที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ประเทศใดหยุดการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์
จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนไปแล้วรวมทั้งสิ้น 40 ล้าน โดส และเป็นวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์มากที่สุด ซึ่งการให้วัคซีนวันละหลายล้านคนนั้น ย่อมเป็นไปได้ที่จะมีข่าวแบบนี้อีกแน่นอน ส่วนจะเป็นเพราะวัคซีนหรือไม่นั้น จะต้องรอสรุปจากสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ หากเป็นของใหม่ เมื่อนำมาใช้ก็ต้องมีการระวังอาการข้างเคียงอาการไม่พึงประสงค์อย่างละเอียด และรอบคอบ อาการไม่พึงประสงค์อาจเกิดขึ้นได้แม้โอกาสที่จะเกิดเป็นเพียงหนึ่งในล้านก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan