กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดบางใหญ่ ตามติดมาตรการคุมเข้มโควิด-19 พร้อมแนะเจ้าของตลาดล้างทำความสะอาดตลาดตามหลักสุขาภิบาลสัปดาห์ละครั้ง คัดแยกขยะทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์หนู สัตว์นำโรคมาสู่คน
วันนี้ (19 มกราคม 2563) นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเสริมพลัง “การพัฒนาตลาดสดตามมาตรการป้องกันโควิด-19” ณ ตลาดบางใหญ่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ว่า ช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ กรมอนามัยขอความร่วมมือผู้ประกอบการหรือเจ้าของตลาด ผู้ค้า ผู้ขายของ ผู้บริโภค ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
โดยต้องกำหนดทางเข้า-ออกตลาด มีการคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิ จัดให้มีที่ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล แผงค้า อย่างน้อย 1-2 เมตร รวมถึงกำหนดมาตรการเพื่อลดความแออัด จัดให้มีการทำความสะอาด บริเวณพื้นตลาด แผงจำหน่ายอาหารสด หรือแผงชำแหละเนื้อสัตว์สด ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันและล้างตลาด ตามหลักการสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง อาหารปรุงสำเร็จมีการปกปิดอาหารมิดชิด จัดเก็บสูงจากพื้น อย่างน้อย 60 เซนติเมตร ใช้อุปกรณ์สำหรับการหยิบจับหรือตักอาหาร มีการทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องส้วมทุก 2 ชั่วโมง และมีการจัดการขยะอย่างถูกวิธีทุกวัน
“ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเจ้าของและผู้ประกอบการควรมีการล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลสัปดาห์ละครั้ง โดยมีวิธีการปฏิบัติดังนี้
ขั้นที่ 1 การล้างด้วยน้ำและผงซักฟอก เพื่อกำจัดคราบสกปรก แล้วฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนบริเวณบนแผงหรือพื้นทางเดิน แต่หากมีคราบไขมันจับให้ใช้น้ำผสมโซดาไฟราดลงบนพื้นหรือแผงทิ้งไว้นาน 15-30 นาที และใช้แปรงลวดถูเพื่อช่วยในการขจัดคราบไขมัน และขั้นที่ 2 การฆ่าเชื้อโรคโดยใช้น้ำผสมผงปูนคลอรีนใส่ลงในฝักบัว รดน้ำและรดบริเวณแผง เขียง ทางเดิน ทางระบายน้ำเสียให้ทั่ว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคและ กำจัดกลิ่น ส่วนบริเวณที่มีกลิ่นคาวให้ใช้หัวน้ำส้มสายชูผสมน้ำให้เจือจางราดบริเวณที่มีกลิ่นคาว ส่วนบริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม อ่างล้างมือ ที่ปัสสาวะ และก๊อกน้ำสาธารณะที่ใช้ในตลาด ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือผงซักฟอกช่วย และล้างด้วยน้ำสะอาด นอกจากนี้ต้องกำจัดเศษอาหาร เศษผักผลไม้ โดยเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และนำขยะไปกำจัดอย่างถูกต้องทุกวัน รวมทั้งหมั่นล้างทำความสะอาดถังขยะ และไม่ให้มีเศษอาหารหรือกลิ่นอาหารอยู่ใน ท่อน้ำทิ้ง รวมทั้งควรปิดช่องทางหนูวิ่งเข้าออกผ่านท่อน้ำทิ้งด้วยลวดตาข่ายหรือวัสดุอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงที่จะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์หนูและแพร่กระจายของโรคได้” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว