กรมอุทยานแห่งชาติ​ฯ​​ เข้ม เสริมสมรรถนะชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า​ (เสือไฟ) 225 นาย ทั่วประเทศ เตรียมพร้อมสนับสนุนปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในท้องที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานใน พิธีเปิด “การเสริมสมรรถนะชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า” เพื่อเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในท้องที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยมีนายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 16 (เชียงใหม่) กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานและรายงานสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ โดยมีนายสมหวัง เรืองนิวัติศัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดฯ และผู้เข้าร่วมฝึกอบรมฯ จำนวน 225 คน ณ ศูนย์ฝึกและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานกล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เน้นการเตรียมการเข้มข้นเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี 64 ทั้งสรรพกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ต้องพร้อมในการปฏิบัติงานอยู่เสมอ กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงได้ดำเนินการจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “การเสริมสมรรถนะชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า” เพื่อเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในท้องที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 25-30 มกราคม 2564 ณ ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านสมรรถนะร่างกาย ระเบียบวินัยขั้นพื้นฐาน การทบทวนและเพิ่มพูนความรู้ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งการเรียนรู้ประสบการณ์ที่จะทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ ก่อนที่จะออกไปปฏิบัติงานสนับสนุนการควบคุมไฟป่าในท้องที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ การเสริมสมรรถนะชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจ และกำลังใจ จึงจะสามารถปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า ที่ถือว่าเป็นงานที่หนักหน่วงและยากลำบากได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานดับไฟป่านั้น เป็นงานที่หนัก เหน็ดเหนื่อย และเสี่ยงอันตราย ทั้งจากเปลวไฟโดยตรง จากหมอกควัน และก๊าซพิษ รวมไปถึงอันตรายอันเกิดขึ้นได้ในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงาน ทั้งในระหว่างปฏิบัติงาน และหลังการปฏิบัติงาน เพราะฉะนั้นผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกท่านควรพึงระลึกถึงความปลอดภัย เป็นอันดับแรกเสมอ การปฏิบัติงานแม้จะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่หากมีเจ้าหน้าที่คนใดคนนึงต้องเสียชีวิตแล้วถือว่าภารกิจนั้นล้มเหลว

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องการให้จำนวน Hotspot ลดลง​ให้ได้​ 30% ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ เรามีการเตรียมความพร้อมไม่ว่าจะเป็นกำลังพล รวมถึงการชิงเก็บเพื่อลดการเผา ขณะนี้ก็ดำเนินการไปถือว่าบรรลุเป้าหมายพอสมควร เดิมคาดการณ์การเกิดไฟป่าจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี แต่จากการที่ตนได้ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและพื้นที่อื่นที่เคยเกิดไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ ใบไม้เริ่มแห้งมากขึ้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อสถานการณ์โดยเฉพาะเรื่องของกำลังพลได้สั่งการให้ลงไปในจุดที่มีปัญหาแล้ว รวมทั้งให้ประสานและบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะฝ่ายปกครองในพื้นที่ นอกจากนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 กรมอุทยานฯ ได้งบประมาณเพื่อจ้างพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงมีการจ้างงานพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อทำแนวกันไฟ ในส่วนของการจ้างงานนั้นได้ให้ทางชุมชนเป็นผู้ดำเนินการตามความเหมาะสมเพื่อมาช่วยงานด้านการป้องกันไฟป่า

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในปีนี้กรมอุทยาน ฯ มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่รุนแรงส่งผลกระทบกับทรัพยากรธรรมชาติ และต่อสุขภาพพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การจัดกิจกรรมครั้งนี้ก็เช่นกัน มีการระดมกำลังพลจาก 15 ศูนย์ควบคุมไฟป่าทั่วประเทศ นำเจ้าหน้าที่ จำนวน 225 นาย จากชุดเสือไฟซึ่งกำลังพลชุดนี้เป็นชุดครูฝึกที่มีสมรรถนะในการปฏิบัติภารกิจอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนลงประจำการในพื้นที่จริง และได้กำชับให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงในเรื่องของสวัสดิการต่างๆกรมอุทยานฯพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้ามาร่วมสนับสนุนด้านสวัสดิการด้วยเช่นกัน

———-

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *