การออกกำลังกายนั้นดีต่อสุขภาพ เป็นเรื่องพื้นฐานที่เราหลายคนรู้กันอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ถึงความสำคัญของ การอบอุ่นร่างกาย ก่อนการออกกำลังกาย และเลือกที่จะละเลยขั้นตอนนี้ไป
เรื่องน่ารู้ดีๆ เกี่ยวกับ การอบอุ่นร่างกาย เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับความสำคัญของการ อบอุ่นร่างกาย กันมากขึ้น
การอบอุ่นร่างกาย คืออะไร?
การอบอุ่นร่างกาย หรือการวอร์มอัพ (Warm up) หมายถึงกิจกรรมที่ทำเบาๆ ในจังหวะช้าๆ อาจมีตั้งแต่ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ การย่ำอยู่กับที่เบาๆ หรือแม้แต่การปั่นจักรยานช้าๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของส่วนต่างๆ ในร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และการเคลื่อนไหวของร่างกายให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม และพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการออกกำลังกาย
หลายคนมักจะเลือกข้ามขั้นตอนการอบอุ่นร่างกายไปเริ่มต้นออกกำลังกายเลย เพราะคิดว่าไม่สำคัญหรือเสียเวลา แต่จริงๆ แล้ว หากเราไม่ อบอุ่นร่างกาย ให้ดีก่อนการออกกำลังกาย ก็อาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อเนื่องจากเกิดอาการกล้ามเนื้อฉีกได้ เป็นต้น
ประโยชน์ของการอบอุ่นร่างกาย
การอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยเตรียมความพร้อมของร่างกาย ก่อนที่จะได้ออกกำลังกายในแต่ละครั้งแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ การอบอุ่นร่างกายจะทำให้เราได้ขยับยืดเส้นยืดสาย และวอร์มกล้ามเนื้อของเราให้พร้อม ทำให้เราสามารถออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ป้องกันอาการบาดเจ็บ หากเราเริ่มออกกำลังกายเลยโดยไม่อุ่นเครื่อง ยืดเส้นยืดสาย ก็อาจจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการกระชาก และมีโอกาสฉีกขาด ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด การอุ่นร่างกายอย่างน้อย 10 นาทีก่อนการออกกำลังกาย จะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และนำพาออกซิเจนได้ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกาย ทำให้ร่างกายของคุณพร้อมสำหรับการออกกำลังกายนั่นเอง
- บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ การอบอุ่นร่างกาย สามารถช่วยทำให้กล้ามเนื้อของคุณยืดหยุ่นและผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้สามารถช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้า และอาการปวดกล้ามเนื้อได้ดียิ่งขึ้น
ท่าอบอุ่นร่างกายที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ
คุณสามารถอบอุ่นร่างกายได้ง่ายๆ ด้วยท่าทางดังต่อไปนี้
- ท่าย่ำอยู่กับที่
ท่ายกขาขึ้นลงสลับกัน ให้เหมือนกับว่าเรากำลังวิ่งย่ำอยู่กับที่ วิ่งย่ำต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 3 นาที
- ท่าตอกส้น
ยืนตรง ยืดแขนทั้งสองข้างออกมาไว้ด้านหน้า ให้ขนานกับพื้น จากนั้นจึงก้าวเท้าข้างหนึ่งออกมาด้านหน้า ยกหัวเท้าขึ้นให้ส้นเท้าติดกับพื้น ส่วนขาอีกข้างงอเล็กน้อย จากนั้นจึงเก็บขากลับมาและสลับเท้าอีกข้างออกไป ทำซ้ำประมาณ 60 วินาที
- ท่ายกแตะเข่า
ยืนตัวตรง ยกเข่าข้างหนึ่งขึ้นมาจนขนานกับพื้น และใช้มืออีกข้างแตะที่เข่า เช่น ถ้ายกเข่าซ้าย ให้ใช้มือขวาแตะเข่า แล้วสลับไปที่เข่าอีกข้าง ทำซ้ำสลับกันไปเรื่อยๆ ประมาณ 30 วินาที
- ท่าไซด์ ลันจ์ (Side Lunge)
เริ่มจากยืนตัวตรง กางขาออกจากกันเล็กน้อย และประสานมือทั้งสองไว้กลางอก ค่อยๆ โยกตัวไปทางด้านซ้าย โดยยืดขาขวาให้เหยียดตรง ค้างไว้สักครู่ แล้วจึงกลับมาท่าเริ่มต้น ก่อนสลับโยกไปอีกทาง ทำสลับกันไปมาเรื่อยๆ ประมาณ 8-15 ครั้ง