กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงนี้อากาศหนาวเย็นลง ขอให้ดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด เตรียมเครื่องนุ่งห่มให้เพียงพอ ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
วันนี้ (29 มกราคม 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงสิ้นเดือนนี้ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นลง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ซึ่งในบริเวณภูเขาและยอดดอยอาจมีอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสได้ กรมควบคุมโรค จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด สวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายอยู่เสมอ หากเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสองมาสวมใส่ อาจมีเชื้อโรคหรือพาหะนำโรคติดมากับเสื้อผ้า หากไม่ทำความสะอาดก่อนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สวมใส่ได้ เช่น โรคกลากเกลื้อนจากเชื้อรา โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังจากพาหะนำโรค อาทิ ตัวไร ตัวเรือด เห็บ หมัด และโลน เป็นต้น
นายแพทย์โอภาส กล่าวแนะนำ วิธีปฏิบัติตนในการรับมือกับอากาศที่หนาวเย็นลง โดยดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มเครื่องดื่มที่สามารถให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง เตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือผ้าห่ม โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสอง ต้องทำความสะอาดก่อนสวมใส่ โดยให้ซักด้วยผงซักฟอก หรือแช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ อาทิ น้ำยาซักผ้าขาวที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium hypochlorite) หรือต้มในน้ำเดือดเพื่อป้องกันโรคผิวหนัง ควรอาศัยอยู่ในที่อบอุ่นที่สามารถป้องกันลมหนาวได้อย่างเหมาะสม และในช่วงที่อากาศหนาวเย็นอาจทำให้เสี่ยงเกิดโรคติดเชื้อ ระบบทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด 19 ที่มีการติดต่อในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชน ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ได้แก่ ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม โดยการ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกบ้าน ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของต่างๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย ควรเว้นระยะห่าง แยกของใช้ และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หยุด คือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมที่อยู่ในสถานที่แออัด
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้ขอให้ประชาชนพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งต้องเพิ่มการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวนี้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย หากป่วยจะมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น ถ้าพบว่ามีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422