นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า จากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในเรื่องการป้องกันและปราบรามยาเสพติด รัฐบาลได้ตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยมีตนเป็นประธาน และมีหน่วยงานต่างๆร่วมเป็นกรรมการ มีการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมานายกฯได้เอาจริงเอาจังในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีการติดตามและสอบถามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐเอกชนในการปฏิบัติงาน จากนั้นได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อยึดทรัพย์สินของเครือข่ายยาเสพติด โดยให้สืบสวนสอบสวนบุคคลหรือกลุ่มที่ค้ายาเสพติด เพื่อทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ ซึ่งความสำเร็จจำเป็นที่จะต้องประสานหน่วยงานรัฐและเอกชน โดยเฉพาะธนาคารและสถาบันการเงิน โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
“วันนี้เราต้องทำให้สำเร็จ กระทรวงยุติธรรมจึงกำหนดปฏิบัติการ พาลีปราบยา โดยการดำเนินการมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ 16 คณะทำงานเพื่อทำงานในปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการนำร่องไปแล้ว โดยกระทรวงยุติธรรมได้ใช้สัญลักษณ์ รูปพญาพาลีสีเขียว เหยียบเหนือตราสิงโตคู่สีแดง ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายปราบปรามที่อยู่เหนือขบวนการค้ายาเสพติด และจะมีการผนึกกำลังกับธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเข้าใจธนาคารและสถาบันการเงิน ในการรักษาความลับของลูกค้า ดังนั้นคณะกรรมการจะขอข้อมูลเท่าที่จำเป็น และขอให้ท่านจัดลำดับความสำคัญ ทั้งนี้ผมขอขอบคุณ สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกันผนึกกำลัง ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือจะทำลายเส้นทางการเงินของเครือข่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในขบวนการ เพื่อทำให้ประเทศชาติพ้นภัยยาเสพติดและพัฒนาได้ต่อไป”นายสมศักดิ์ กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ตนในฐานะตัวแทนสถาบันการเงินของรัฐ ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐ สนับสนุนติดตตามเส้นทางการเงินของขบวนการยาเสพติดอย่างเต็มที่ ซึ่งคงจะมีการยกระดับใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบ รวมถึงการแก้กฎหมายในอนาคตเพื่อสามารถอาญัติเงินผู้ต้องหาได้ดียิ่งขึ้น เรายืนยันว่ายินดีที่จะช่วยงานในการปราบปรามยาเสพติดให้หมดสิ้นไป
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทยขอบคุณที่จัดงานในครั้งนี้ เพื่อการให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดและเพื่อให้สามารถยึดทรัพย์ได้อย่างจริงจัง เราพร้อมให้ข้อมูลทางการเงินด้วยความรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่ดีเสมอมา ปัจจุบันการรับส่งข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี สถาบันการเงินทุกแห่งมีการติดตามธุรกรรมของลูกค้า คัดกรองเบื้องต้นถึงความผิดปกติในการป้องกันเครือข่ายยาเสพติด และเมื่อมีคำสั่งจากภาครัฐเราพร้อมร่วมมือ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญเพื่อความยั่งยืนแต่ก็ต้องอยู่ในกรอบของธรรมาภิบาลด้วย
จากนั้น นายสมศักดิ์ แถลงข่าวว่า ในการยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่าเงินอยู่ที่ไหน ใครส่งให้ใคร และต้องดูบัญชีเส้นทางและต้องตรวจสอบให้พบ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตำรวจและดีเอสไอ จับกุมได้แค่ตัวยากับผู้ครอบครองและขนส่ง ขาดข้อมูลที่หลากหลาย ไม่รู้ว่าเจ้าของธุรกรรมรายใหญ่คือใคร ดังนั้นวันนี้เราจึงได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติด ประกอบด้วย ป.ป.ส. ดีเอสไอ บช.ปส.และธนาคารต่างๆ โดยเอกสารต่างๆจะใช้เครื่องหมาย พาลีปราบยา เพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลการเงินและธุรกรรมต่างๆสาวไปถึงผู้บงการหรือผู้ค้ายารายใหญ่ เราจึงต้องตั้งคณะทำงานนี้เพื่อทำงานร่วมกันและใช้เทคโนโลยีติดตาม เพื่อให้เป้าหมายในการยึดทรัพย์จากเดิมปีละ 600 ล้านบาทเป็นไปตามเป้าหมายคือ 6,000 ล้านบาท ตนต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมืออย่างดี ส่วนสกุลเงินดิจิทัลที่เริ่มมีการใช้ในเครือข่ายยาเสพติดบ้างแล้วนั้น เราได้มีการศึกษาข้อมูลไว้บ้างแล้ว
………………………………