กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเลย หวังบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ให้ราษฎรในพื้นที่มีน้ำเพื่อการเกษตรและน้ำกินน้ำใช้ตลอดทั้งปี
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังนำคณะสื่อมวลชนสัญจรลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำน้ำลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเลย ว่า กรมชลประทาน ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำน้ำลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเลย เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจะต้องดำเนินการแก้ไขผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคประชาชนในพื้นที่ จัดตั้งโครงการปลูกป่า เพื่อทดแทนพื้นที่ป่าที่สูญเสียไป หากมีการก่อสร้างโครงการฯ รวมไปถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อชุมชนและดูแลความเป็นอยู่ของราษฎรที่ได้รับผลกระทบให้ดีที่สุด
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการฯที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทาน พิจารณาวางโครงการชลประทานในลุ่มน้ำเลย ด้วยการพิจารณาสร้างอ่างเก็บน้ำในลำน้ำลาย สำหรับเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อให้ราษฎรในลุ่มน้ำเลย ได้ใช้ทำการเพาะปลูกทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง อีกทั้งยังใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปีด้วย
โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีหัวงานเขื่อนตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านไร่ทาม ตำบลนาอาน อำเภอเมือง จังหวัดเลย ความยาวสันเขื่อนประมาณ 434 เมตร เก็บกักน้ำได้ประมาณ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี ซึ่งจากการวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ พบว่าให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน มีพื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 17,200 ไร่ พื้นที่ชลประทานประมาณ 13,249 ไร่ ใช้ระบบส่งน้ำแบบท่อและคลองส่งน้ำรูปตัวยู ครอบคลุม 2 ตำบลในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเลย ได้แก่ ตำบลนาอาน และตำบลชัยพฤกษ์ หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่ดีขึ้น และจะสามารถช่วยเหลือการเพาะปลูกพืชไร่ในฤดูแล้งประมาณ 8,979 ไร่ 15 หมู่บ้าน 3,229 ครัวเรือน