กรมสุขภาพจิต จับมือ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย

กรมสุขภาพจิต จับมือ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมเสริมศักยภาพของระบบบริการสุขภาพจิตเพื่อรองรับผลกระทบด้านจิตใจจากสถานการณ์โควิด-19 และการเข้าถึงบริการของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ

 
วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2564) กรมสุขภาพจิต ร่วมลงนามหนังสือสัญญาข้อตกลงการทำงานร่วมกันระหว่าง กรมสุขภาพจิตกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNDP) ในการจัดทำโครงการเสริมศักยภาพของระบบบริการสุขภาพจิตเพื่อรองรับผลกระทบด้านจิตใจจากสถานการณ์โควิด 19 และเพิ่มการเข้าถึงบริการของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมตั้งเป้าหมาย “สังคมไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ผลกระทบด้านจิตใจจากสถานการณ์โควิด 19 เป็นสิ่งที่พบได้ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งสำหรับผลกระทบในประเทศไทย กรมสุขภาพจิตนั้นตระหนักและได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือผลกระทบด้านสุขภาพจิตตั้งแต่การระบาดระลอกแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสังเกตความเครียดและภาวะซึมเศร้าของประชาชนด้วยตนเองผ่านระบบ Mental Health Check In ซึ่งช่วยให้ประชาชนมีเครื่องมือในการเฝ้าระวังและสังเกตอาการของตนเองและคนรอบข้างเพื่อขอรับความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตจากหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศและสายด่วนสุขภาพจิต 1323 นอกจากนี้ ยังมีระบบดูแลช่วยเหลือฉุกเฉิน HOPE Task Force ซึ่งเป็นความร่วมมือกับชุมชนออนไลน์ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายเพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย เห็นความสำคัญของผลกระทบด้านสุขภาพจิตในสถานการณ์โควิด 19 นี้ รวมทั้งต้องการสนับสนุนเข้าถึงบริการของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งตรงกับเจตนารมณ์ของกรมสุขภาพจิตที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จึงสร้างความร่วมมือในการทำงานร่วมกัน ทั้งการเพิ่มสมรรถนะบุคลากรในระบบสาธารณสุขในการเยียวยาผลกระทบด้านจิตใจจากสถานการณ์วิกฤต การ สนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตบนระบบดิจิทัล การสนับสนุน HOPE Task Force ให้เชื่อมโยงกับชุมชนออนไลน์เพื่อค้นหาผู้มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยทีมสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้กว้างขวางขึ้น รวมทั้งการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมทั้งผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ
กรมสุขภาพจิต มุ่งหวังให้การลงนามหนังสือสัญญาข้อตกลงการทำงานร่วมกันในวันนี้ จะก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมและรูปแบบการทำงานใหม่ๆร่วมกัน เพื่อปกป้องคนไทยจากปัญหาสุขภาพจิตและดูแลคนไทยทุกคนทุกเพศทุกวัยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
* 18 กุมภาพันธ์ 2564

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *