
นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบให้น้ำโขงนิ่ง ไม่ไหลเชี่ยว เกิดการตกตะกอนกลายเป็นสีฟ้าครามคล้ายทะเล ถึงแม้จะสร้างความสวยงามตื่นตาให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว แต่ในทางตรงกันข้าม ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ถึงผลกระทบของการสร้างเขื่อนกั้นน้ำโขงของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ระบบนิเวศเริ่มพัง ระดับน้ำโขงไม่ไหลเวียนตามธรรมชาติ
ส่งผลกระทบต่อลำน้ำสาขาแห้งขอด โดยเฉพาะสายหลัก ได้แก่ ลำน้ำอูน, ลำน้ำสงคราม และลำน้ำก่ำ มีปริมาณน้ำน้อย จึงกระทบต่ออาชีพประมงมากที่สุด เพราะชาวบ้านจับปลาได้น้อย และกระทบกับการขยายพันธุ์ของปลาน้ำโขง เนื่องจากไม่สามารถขึ้นไปวางไข่ได้ตามฤดูกาล
สำหรับแนวทางการป้องกันแก้ไข ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจ ตรวจสอบทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ห้ามจับปลาในฤดูวางไข่ และห้ามใช้อุปกรณ์จับปลาที่มีการห้ามในช่วงฤดูปลาขยายพันธุ์ นอกจากนี้ยังได้วางแนวทางในการจัดพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์ปลาแบบธรรมชาติในลำน้ำโขง ด้วยการสร้างเขตพื้นที่ห้ามจับปลาตามหน้าวัดเขตอภัยทาน โดยใช้ความเชื่อมาเป็นส่วนในการอนุรักษ์เพื่อขยายพันธุ์ปลาน้ำโขง
ที่สำคัญจะต้องเร่งทำการเพาะพันธุ์ขยายพันธุ์ปลาลงสู่แม่น้ำให้มากที่สุด แต่มีปัญหาเพราะปลาบางชนิดต้องใช้เวลาเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ 3-4 ปี กว่าจะสามารถขยายพันธุ์ได้ แต่มีปริมาณการจับและการสูญพันธุ์มากกว่าการขยายพันธุ์ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการประมงอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเชื่อว่าถึงแม้จะมีการเพิ่มการขยายพันธุ์ปลามากขึ้น แต่ปัจจัยหลักคือระบบนิเวศระดับน้ำโขงที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ส่งผลกระทบตามมาขั้นวิกฤตแน่นอนในอนาคต
ที่มา – ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน