
วันที่ 24 ก.พ. 64 เวลา 16.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะโฆษกกระทรวง พม. เปิดเผยว่า จากกรณีเด็กหญิงวัย 12 ปี เป็นเด็กเรียนดีช่วยแม่เลี้ยงน้องวัย 3 ขวบ และช่วยแม่ทำงานทุกอย่าง ได้ประกาศขายไตตนเอง เพื่อหาเงินมาใช้หนี้นอกระบบให้แม่นั้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบในการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือกรณีดังกล่าว โดยการให้คำแนะนำปรึกษาให้กำลังใจ มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และนมสำหรับเด็กเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทั้งนี้ล่าสุดได้มอบหมายให้นางราตรี แฉล้มวารี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและวางแนวทางการในการช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว
นางสาวแรมรุ้ง กล่าวว่า กรณีนี้จะมีพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก เพื่อให้เข้าไปทำงาน กับครอบครัวทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ให้แม่คลายกังวล มีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเอง มีความสามารถในการให้การอุปการะเลี้ยงดูเด็กได้ การช่วยเหลือระยะสั้น จะมีเงินช่วยเหลือเฉพาะหน้า ได้แก่ เงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน กรณีที่ต้องช่วยเหลือต่อเนื่องจะให้การช่วยเหลือผ่านกองทุนคุ้มครองเด็ก เงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และแนะนำการขึ้นทะเบียนรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดสำหรับน้องคนเล็ก พร้อมทั้งสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ของใช้ในชีวิตประจำวัน อาหาร เป็นต้น และพิจารณาเรื่องภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว
พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือ หรือประนีประนอมหนี้สิน สำหรับการช่วยเหลือในระยะยาว จะมีพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานลงเยี่ยมบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยจะแบ่งการช่วยเหลือดังนี้ ซึ่งผู้เป็นแม่ จะมีการพัฒนาอาชีพตามความถนัด และฝึกทักษะการบริหารการเงิน รายรับและรายจ่ายของครอบครัว และทักษะการเลี้ยงดูลูก ส่งเสริมเสริมการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ประสานโรงเรียนเพื่อให้ครูที่เด็กไว้ใจ หรือ อาจเป็นครูประจำชั้นของเด็ก ทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เพื่อช่วยดูแลเด็กทั้งสองคนร่วมกับแม่รวมถึงการจัดหาทุนการศึกษาและพัฒนาทักษะอื่น ๆ ให้แก่เด็กต่อไป
นางสาวแรมรุ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ หากประชาชนประสบปัญหาทางสังคม สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อขอความช่วยเหลือเร่งด่วนด้วยตนเองได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งกระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่