แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิตเปิดโครงการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพเภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพเครือข่ายจิตเวชโรงพยาบาลสวนปรุง

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ พิธีเปิด-PG-22_๒๑๐๓๐๔_15_0-1024x446.jpg

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ พิธีเปิด-PG-22_๒๑๐๓๐๔_10-1024x722.jpg

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต
เปิดโครงการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพเภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพเครือข่ายจิตเวช
โรงพยาบาลสวนปรุง พร้อมติดตามการดูแลจิตใจประชาชนในสถานการณ์โควิด 19
8 จังหวัดภาคเหนือ และเน้นย้ำหลัก 3 ส. สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟัง และส่งต่อเชื่อมโยง

 (4 มี.ค.64) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร  อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานเปิดโครงการอบรม  2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรการฝึกอบรมระยะสั้น การบริบาลเภสัชกรรมเฉพาะทาง สาขาจิตเวช รุ่นที่ 12 และหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขา

การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช รุ่นที่ 22 ณ โรงพยาบาลสวนปรุง โดยมี นายแพทย์สมัย ศิริทองถาวร, นายแพทย์ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต, นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวรายงาน, แพทย์หญิงหทัยชนนี บุญเจริญ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์, ว่าที่ร้อยโทโฆษิต กัลยา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑, คณาจารย์จากคณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมในงาน

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร  อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายบริการด้านสุขภาพจิตมาอย่างต่อเนื่อง  โดยหลักสูตรการอบรมดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงได้กับนโยบาย 3 หมอ ที่มีแนวคิดคือ

ต้องการให้คนไทยทุกคนทุกครอบครัวมีหมอดูแลในทุกระดับของการเจ็บป่วย ตั้งแต่การเจ็บป่วยเล็กน้อยดูแลได้ภายในครอบครัวและชุมชน การเจ็บป่วยที่เพิ่มระดับการบริการสุขภาพและการแพทย์ขึ้นมาต้องการการดูแลในสถานบริการปฐมภูมิใกล้บ้านในระดับตำบลและการเจ็บป่วยที่ต้องการการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลหรือการดูแลในระดับอำเภอต่อไปถึงระดับจังหวัด โดย 3 หมอที่ว่านี่คือ

  1. หมอประจำบ้าน ได้แก่ อสม. 2. หมอสาธารณสุข ได้แก่ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานบริการปฐมภูมิ ทั้ง รพ.สต.,
    คลินิกชุมชนอบอุ่น ครอบคลุมบุคลากรทุกสาชาวิชาชีพทั้งพยาบาล เภสัชกร และวิชาชีพอื่นๆ และ 3. หมอเวชปฏิบัติครอบครัว
    โดยเป้าหมายคือประชาชนเป็นเจ้าของระบบสุขภาพที่แท้จริง มีสุขภาพที่ดี ลดความแออัดในโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ยังได้กล่าวเพิ่มเติมสำหรับความห่วงใยในกลุ่มเสี่ยงภาวะสุขภาพจิตในสถานการณ์โควิด 19 ในเขตภาคเหนือ จากการที่ได้ส่งทีม MCATT เขตสุขภาพที่ ๑ (ทีมเยียวยาจิตใจในภาวะวิกฤตสุขภาพจิต) โรงพยาบาลสวนปรุง,
    ศูนย์สุขภาพจิตที่ 1 และสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ ประกอบด้วย นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักกิจกรรมบำบัด นักวิชาการสาธารณสุข และพยาบาลวิชาชีพ ลงพื้นที่ดำเนินงานเชิงรุกโดยเสริมให้มีบริการรถโมบายคลายเครียดเพื่อประเมินภาวะสุขภาพจิตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชาชน ซึ่งมีการคัดกรองสุขภาพจิตผ่านระบบ Mental Health Check in ให้บริการตรวจวัดความเครียดและการไหลเวียนของเลือดด้วยเครื่อง Biofeedback (HRV) พร้อมแปลและรายงานผลโดยนักจิตวิทยาและการให้คำปรึกษาเบื้องต้น ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น จากการรายงาน
    มีผู้ตอบแบบประเมิน 8,775 ราย พบผู้มีความเครียดสูงร้อยละ 8.9 เสี่ยงซึมเศร้า ร้อยละ 12.09 เสี่ยงฆ่าตัวตาย ร้อยละ 6.55
    และมีภาวะหมดไฟ ร้อยละ 5.09
    โดยอยากจะขอเน้นย้ำในหลัก 3 ส. คือ ส 1 สอดส่องมองหา โดยค้นหาผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ส 2 ใส่ใจ
    รับฟัง อย่างตั้งใจ เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีความเครียดจากสถานการณ์ คลายความทุกข์ในใจ และ ส 3 ส่งต่อเชื่อมโยง โดยให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็น ส่งต่อเข้าสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสม สำหรับในกลุ่มผู้มีความเครียดสูง ผู้มีภาวะหมดไฟ ท่านสามารถรับความรู้ได้จากแอพพลิเคชั่น Mental Health Check in ภายหลังการทำแบบประเมินโดยองค์ความรู้ที่ได้รับนำไปดูแลสุขภาพจิตตนเองได้
    ทั้งนี้ท่านสามารถตรวจสอบสภาพจิตใจของตนเองได้ทางแอปพลิเคชั่น Mental Health Check In และหากมีข้อสงสัย
    โทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางด้านนายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า โรงพยาบาลสวนปรุงเป็นหน่วยงาน นำร่องในการจัดทำหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพทั้งพยาบาลวิชาชีพและเภสัชกรเฉพาะทางสาขาจิตเวช และเป็นที่ปรึกษาหน่วยงาน
    ในสังกัดกรมสุขภาพจิตมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการรับรองจากสภาการพยาบาล และสภาเภสัชกรรม ซึ่งในปัจจุบันได้อบรม
    พยาบาลวิชาชีพเฉพาะทางสาขาจิตเวชทั่วประเทศไปแล้วกว่า 830 คน และเภสัชกรเฉพาะทางจิตเวช 189 คน สำหรับโครงการอบรมในวันนี้ แบ่งเป็น 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรการฝึกอบรมระยะสั้นการบริบาลทางเภสัชกรรม เฉพาะทางสาขาจิตเวช รุ่นที่ ๑๒ ระยะเวลาอบรม ๑ มีนาคม-๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ รวม ๒๔ สัปดาห์ ผู้เข้าอบรมประกอบด้วย
    เภสัชกรจากโรงพยาบาลชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ สระบุรี และนครราชสีมา และ
    โรงพยาบาลในสังกัดกรมสุขภาพจิต รวมจำนวน 13 คน และหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและ
    จิตเวช รุ่นที่ 22 ระยะเวลาอบรม 3 มีนาคม-30 มิถุนายน 2564 รวม 16 สัปดาห์ ผู้เข้าอบรมประกอบด้วย พยาบาลวิชาชีพ
    รพ.ศูนย์ และรพ.สต.ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และโรงพยาบาลสวนปรุง จำนวน 27 คน และได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลหางดง โรงพยาบาลดอยสะเก็ด โรงพยาบาลสันทราย และโรงพยาบาลสันกำแพง
    จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติงานในชุมชน ซึ่งการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายก็เพื่อการเข้าถึงบริการจิตเวชที่ทั่วถึงและต่อเนื่องเพื่อประชาชนมีสุขภาพจิตที่ดี
    4 มีนาคม 64

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *