เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564 ณ เวทีการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE รุ่นที่ 11 ระดับภาคเหนือ ซึ่งจัดที่โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีโอกาสต้อนรับเยาวชนที่มีคุณสมบัติของการเป็นคนเก่งและดี ตัวแทนจากพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดเข้าสู่การประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE ระดับภาคเหนือ รุ่นที่ 11 ซึ่งเป็นภาคที่ 2 ของการประกวดในปีนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่า เราจะได้ตัวแทนเยาวชนคนเก่งและดี ของภาคเหนือ ที่โดดเด่นและเหมาะสม เพื่อเป็นตัวแทนเข้าสู่การประกวดระดับประเทศในเดือนเมษายนนี้ สิ่งสำคัญที่อยากฝากกับน้องๆ เยาวชนทุกคน คือ ขอให้ทุกคนได้ตระหนักและสำนึกในพระกรุณาธิคุณของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ทรงพระราชทานแนวทางและโอกาสดีๆ ให้กับพวกเรา ที่จะได้ค้นพบข้อดีที่เป็นจุดเด่นของตัวเอง และโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ด้วยแนวทางที่เหมาะสม ให้เป็นได้ทั้งคนเก่งและคนดีมีความสามารถ และพร้อมที่จะก้าวออกมายืนอยู่แถวหน้าเพื่อเป็นต้นแบบ ให้กับเยาวชนคนอื่นๆ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจในตนเองที่มีวันนี้ วันที่เราได้เป็นตัวแทนของเยาวชนในจังหวัด ที่มีทั้งความดีและความเก่งในตนเอง และพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง ให้ดียิ่งขึ้นต่อไปขอให้ทุกคนโชคดีครับ
นายแพทย์สมัย ศิริทองถาวร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในนามกรมสุขภาพจิตเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ขอแสดงความยินดีกับเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE ภาคเหนือ ในวันนี้ การประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE หรือ TO BE NUMBER ONE IDOL เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นตามแนวทางพระราชทานขององค์ประธานเพื่อสร้าง IDOL สำหรับสมาชิกของ TO BE NUMBER ONE เอง โดยไม่ได้เน้นการสร้างเยาวชนให้เป็นดาราศิลปิน แต่เป็นการสร้างให้เป็นตัวของตัวเอง ให้ค้นพบความสามารถที่แท้จริงที่เป็นข้อดีและจุดเด่นของตัวเอง แล้วพัฒนาต่อยอดให้มีความสามารถ เพื่อพร้อมที่จะก้าวออกมายืนอยู่แถวหน้า เป็นต้นแบบให้กับเยาวชนอื่นๆ โดยรูปแบบการประกวด แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศ เป็นธรรมดาของการแข่งขันหรือการประกวด ย่อมมีคนที่ผิดหวัง และสมหวัง ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่ผิดหวัง ขอให้วันนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีในการก้าวต่อไป และขอแสดงความยินดีสำหรับคนที่ผ่านเข้ารอบกลับไปคงต้องเตรียมตัวเข้ารับการพัฒนาตนเองในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ในช่วงเดือนเมษายนนี้ ขอชื่นชม และขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ช่วยให้เยาวชนของเรามีเวทีและโอกาสในการแสดงความสามารถและการพัฒนาศักยภาพเพื่อเป็นคนเก่งและดีของประเทศชาติต่อไป
ด้านหม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ เลขาธิการมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE และที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE กล่าวว่า การคัดเลือกน้องๆเยาวชนที่จะมาเป็น TO BE NUMBER ONE IDOL สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งที่ทางคณะกรรมการเลือกก็คือรูปร่างหน้าตา บุคลิกภาพ เพราะเป็นสิ่งแรกที่จะดึงดูดน้องๆ ในรุ่นต่อๆไปที่กำลังจะเดินตามมา ส่วนเรื่องร้องเพลงนั้นกรรมการจะฟังว่าร้องได้หรือไม่ พอเข้าบ้าน Idol แล้วจะมีคุณครูมาช่วยพัฒนาให้ทั้งเรื่องร้องเพลงและความเก่งในด้านต่างๆ วันนี้คนที่ไม่ได้ถูกเลือกอย่าได้ท้อแท้ หรือว่าผิดหวัง เสียใจ ไม่ได้แปลว่าน้องไม่เก่ง ไม่สวย ไม่หล่อหรือไม่ดี แต่แปลว่าน้องอาจจะยังไม่พร้อม อาจจะร้องยังไม่สมบูรณ์ เต้นยังไม่เก่ง ยังไม่มั่นใจในตัวเอง ฉะนั้นขอให้กลับไปฝึกซ้อมใหม่ เหมือนรุ่นพี่ที่ผ่านมามีหลายคนไม่ผ่านระดับภาค เขากลับไปฝึกซ้อมแล้วกลับมาสู้ใหม่ในรอบกรุงเทพฯ และก็ทำได้สำเร็จไม่ได้เข้าแค่รอบ 40 คน เขาสามารถเข้ารอบ 16 คนของประเทศ และยังได้เป็นที่หนึ่งของประเทศอีกด้วย ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนอย่าท้อ ถ้าเรายังรักที่จะเป็นเยาวชนคนเก่งและดีของ TO BE NUMBER ONE ก็ขอให้ทำต่อไปและทำด้วยความมั่นใจ ด้วยความหวัง สำหรับวันนี้ถ้าใครได้ก็ขอแสดงความยินดีด้วย
สำหรับผลการประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 11 ระดับภาคเหนือประจำปี 2564 มีเยาวชนเข้าร่วมประกวดรวม 130 คน มีผู้ที่ผ่านเข้ารอบได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนระดับภาคเหนือรวมทั้งสิ้น 8 คน ได้แก่ TI 101 นายศุภกฤต สุพรรณคง “กฤต” จังหวัดอุทัยธานี,TI 013 นายธีรพันธ์ ชุมคำลือ “บีม” จังหวัดพะเยา , TI 107 นายศิวกร ชัยยา “ปกป้อง” จังหวัดเชียงใหม่,TI 049 นายกณวรรธน์ จุลพันธ์“โอม”จังหวัดพิจิตร,TI 016 น.ส.ศศิธร คำสาลิกา “น้ำหนึ่ง” จังหวัดพิจิตร,TI 004 น.ส.ณัฐกุล จันทร์ทองเมือง “มาย” จังหวัดเชียงราย, TI 018 น.ส.ภรัณยู พูลนิ่ม “ตะวัน”จังหวัดพิษณุโลก,TI 102 น.ส.ศศิประภาพรหมศิริ “อิน” จังหวัดอุทัยธานี