รุ่นพี่ ป.5 และ ม.4 ทำร้ายรุ่นน้อง ป.2 ราดซีม่า 6 ขวด ปวดแสบปวดร้อน เกิดแผลพุพองน้ำหนองไหลทั้งตัว คล้ายถูกน้ำกรดราด ด้าน ผอ. ชี้ รุ่นพี่เห็นน้องเป็นหิดเลยเอามาราด เจตนาดีแต่วิธีการผิด งงเลยใครพูดจริงพูดเท็จ

วันที่ 24 มีนาคม 2564 ไทยพีบีเอส รายงานว่า นางจิตตนา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี พาลูกชาย อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ มารักษาที่ รพ.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เนื่องจากมีบาดแผลพุพองทั่วทั้งตัว หลังตามลำตัวเต็มไปด้วยบาดแผลพุพองคล้ายถูกน้ำกรดราด แพทย์ต้องให้การรักษาและให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน
โดยแม่ของเด็ก ระบุว่า บาดแผลที่ตัวของลูกชายดังกล่าวเกิดจาก การกระทำของนักเรียนรุ่นพี่ 2 คน ที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ทั้งสองคนได้เรียกลูกชายของตนมาทำโทษ เพราะลูกชายของตนไม่ยอมออกกำลังกาย โดยใช้ซีม่า 6 ขวด ราดบนร่างกายจนลูกชายปวดแสบปวดร้อน แถมยังทำร้ายร่างกายซ้ำจนปวดศีรษะ

หลังจากนั้นลูกชายได้แจ้งครูประจำชั้นให้ช่วยเหลือ ครูกลับไม่พาไปส่งที่โรงพยาบาล แต่ให้นอนพักที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน และให้กินยาแก้ปวด แต่อาการของลูกชายกลับหนักขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีบาดแผลพุพองมากขึ้น
เรื่องนี้ความแตก เมื่อพี่ชายและพี่สาวของเด็กที่ถูกซีม่าราดที่อยู่โรงเรียนเดียวกันเห็นสภาพน้องแล้วทนไม่ไหว จึงยืมโทรศัพท์คนที่มาซ่อมประตูโทร. มาแจ้งตนเองว่า น้องบาดเจ็บสาหัส ตนจึงเดินทางไปรับลูกมารักษาตัว เมื่อสอบถามไปยังโรงเรียนเพื่อขอทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้รับคำตอบ และเตรียมแจ้งความดำเนินคดีนักเรียนรุ่นพี่ที่ก่อเหตุและดำเนินคดีทางโรงเรียน

ขณะที่รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้สอบถามผู้อำนวยการโรงเรียน เผยว่า มีเด็กในโรงเรียนเป็นหิด เป็นผื่น แล้วพี่เลี้ยงที่เป็นเด็กโต ก็เอาซีม่ามาทาให้น้อง ทาครั้งแรกตอนวันพฤหัสบดี และทาอีกทีวันเสาร์ จากการสอบถามเบื้องต้น เด็กที่เป็นพี่เลี้ยงไม่ได้มีเจตนาแกล้งหรือทะเลาะ พี่เลี้ยงมีเจตนาดีแต่วิธีการไม่ถูก

ส่วนที่ครูไม่ยอมพาส่งโรงพยาบาล เพราะครูเห็นแผลแล้วรู้สึกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงไม่ได้พาส่งโรงพยาบาล แต่แผลเพิ่งมาลุกลามตอนเย็นวันเสาร์ แต่หลังจากนี้จะมีคณะกรรมการมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานเรื่องนี้ไปที่เขตพื้นที่การศึกษา และทางโรงเรียนพร้อมที่จะพูดคุยและเยียวยา ยังไม่อยากให้ครอบครัวไปแจ้งความ
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส, เที่ยงวันทันเหตุการณ์