ศาลฎีกาไม่อนุญาต ฎีกาคดีจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 18 เดือน ไม่รอลงอาญา เสพยา-ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อปี 60 – คุมส่งเรือนจำพิเศษมีนบุรี
ศาลอาญามีนบุรีอ่านคำสั่งศาลฎีกาคดีที่อัยการสำนักงานคดีอาญา 12 (มีนบุรี) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ศิลปินร็อกเกอร์ชื่อดัง อายุ 47 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรณี เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2560 จำเลยได้มีอาวุธปืนพก, กระสุนปืน 6 นัด และเสพเมทเอมเฟตามีน กับเสพเมทิลลีนไดออกซีเมทเอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เข้าสู่ร่างกายซึ่งจำนวนและน้ำหนักเท่าใดไม่ปรากฏชัด โดยจำเลยยังต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานด้วย เหตุเกิดที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2561 พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหา ให้จำคุกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน,ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และฐานเสพยาเสพติด จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 18 เดือนและให้บวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทอดีตภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน เป็นจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอการลงโทษเเม้ว่าจำเลยอ้างป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ขณะกระทำผิด เนื่องจากเห็นว่าจากพฤติการณ์การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่พบว่าจำเลยรู้ผิดชอบดี จึงไม่อาจอ้างภาวะป่วยดังกล่าวได้การกระทำของจำเลยนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งศาลเคยให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีในการรอลงอาญาคดีอื่นไว้แล้ว แต่จำเลยยังมากระทำผิดซ้ำในช่วงเวลารอลงอาญาอีกจึงไม่สมควรให้รอลงอาญา และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
ขณะที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่าฐานมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 5 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำคุก 1 ปี 15 เดือนบวกโทษจำคุก 1 ปี 3 เดือนที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาของศาลอาญาเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน ยกคำขอโจทก์ที่ให้นับโทษต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งนายเสกสรรค์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ตีราคาประกัน 600,000 บาท
โดยในวันนี้นายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซ เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมนางวิภากานต์ ศุขพิมาย หรือ กานต์ ภรรยา และทนายความซึ่งศาลอาญามีนบุรีได้อ่านคำสั่งของศาลฎีกาในคดีที่ทนายความจำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
โดยศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำร้องขออนุญาตฎีกาของจำเลยนั้น ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นและผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริงศาลฎีกาทั้งสิ้น จึงไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกา ให้ยกคำร้องและได้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด ขณะที่ทนายความเปิดเผยสั้น ๆ เกี่ยวกับแนวทางการทำคดีหลังจากนี้ว่า จะปรึกษานางวิภากานต์ เพื่อจะอุทธรณ์คำสั่งภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลมีคำสั่งแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวนายเสกสรรค์ไว้เพื่อรอส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีต่อไป