ดราม่าร้านอาหารดัง ติดป้ายกีดกันลูกค้า ใช้คนละครึ่งไม่ให้นั่งห้องแอร์ คนกินเฟลเลย

ดราม่าร้านอาหารชื่อดัง กีดกันลูกค้า ใครใช้คนละครึ่งให้นั่งข้างนอก คนบอกร้านได้เงินเหมือนเดิม เท่ากัน จะกีดกันทำไม ด้านร้านดังออกมาแจงแล้ว

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาที่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพให้กับประชาชนทั้งโครงการคนละครึ่ง เราชนะ หรือ ม.33 เรารักกันก็ล้วนได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ตรงนี้ แบ่งเบาภาระประจำวัน แต่ทว่าล่าสุด มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งระบุว่า เธอถูกแบ่งแยกเพียงเพราะแจ้งทางร้านว่าใช้สิทธิคนละครึ่ง ซึ่งหากใช้สิทธิ ต้องกินด้านนอก ไม่ได้เข้าห้องแอร์

ไปกินอาหาร นั่งห้องแอร์ แต่โดนไล่ออกมา เพราะว่าใช้คนละครึ่ง

        โดยวันที่ 27 มีนาคม 2564 ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งระบุว่าตนเองไปกินอาหารที่ร้านชื่อดัง และเข้าไปนั่งในห้องแอร์ จากนั้นก็มีพนักงานมาถามว่าใช้สิทธิคนละครึ่งไหม ถ้าใช้ต้องกินด้านนอก

        หลังจากนั้นเจ้าของเรื่อง จึงบ่นว่าต้องแบ่งแยกด้วยเหรอ และพนักงานก็ตอบกลับมาอีกว่า “จ่ายเงินสดไหมล่ะ ถ้าจ่ายเงินสดก็ได้นั่งด้านใน” ซึ่งทำให้เจ้าของเรื่องสังเกตเห็นป้ายที่ติดเอาไว้หน้าร้านด้วยกระดาษว่า “คนใช้สิทธิคนละครึ่งไม่ได้เข้าห้องแอร์”

คนมาร่วมแจง ร้านที่ว่าอาจจะไม่ใช่ร้านข้าวมันไก่ แต่เป็นร้านเป็ดย่างฝั่งตรงข้าม

        ต่อมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกหนึ่งรายออกมาระบุว่า เจ้าของร้านคิดว่า ตนเองเข้าไปนั่งกินอาหารที่ร้านข้าวมันไก่ชื่อดัง แต่จริง ๆ แล้ว ป้ายกระดาษดังกล่าวไม่ใช่ป้ายของร้านข้าวมันไก่ แต่เป็นของร้านเป็ดย่างที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันเลย ทางร้านข้าวมันไก่ให้ลูกค้านั่งในห้องแอร์ได้ทุกคนอยู่แล้ว ต้องขออภัยลูกค้าทุกท่านหากเข้าใจไม่ตรงกัน ต้องกราบ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

        หลังจากนั้นก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกหนึ่งรายเข้ามาชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า ทางร้านข่าวมันไก่ต้องขออภัยลูกค้า ปกติแล้วทางร้านไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง แต่ร้านที่เข้าร่วมคือร้านเป็ดย่างข้าง ๆ ส่วนปัญหาเกิดจากการสื่อสารผ่านป้ายที่ติดตรงประตู ทางร้านแจ้งว่า ลูกค้าที่ต้องการใช้สิทธิ ให้ใช้ที่ร้านเป็ดย่าง ทางร้านได้เรียกพนักงานมาทำความเข้าใจใหม่แล้ว หากลูกค้าจะใช้สิทธิที่ร้านเป็ดย่าง สามารถมานั่งในห้องแอร์ได้

ความเห็นโลกออนไลน์ชี้ 2 ร้านนี้เหมือนเป็นร้านเดียวกัน ควรจะเคลียร์กันเองระหว่างร้าน-ทางร้านขอโทษแล้ว

        ด้านความคิดเห็นอื่น ๆ มองว่า ทั้งนกเป็ดย่าง และ ข้าวมันไก่เจ๊อ้วน อยู่ใกล้กันมาก และปกติลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากอีกร้านมาทานที่อีกร้านได้ จนคาดว่าน่าจะเป็นร้านเครือเดียวกัน และหากร้านนกเป็ดย่างเข้าคนละครึ่ง แต่ข้าวมันไก่เจ๊อ้วนไม่เข้า ก็น่าจะเคลียร์กันให้ชัดระหว่างร้าน ว่าร้านไหนใช้อะไรได้

        บางคนยังบอกว่า ตอนที่ตนไปกินนั้นเห็นเขียนป้ายเข้าร่วมโครงการ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีป้ายติดว่าถ้าใช้สิทธิห้ามนั่งข้างใน ตนก็ไปนั่งกินปกติสั่งข้าวหน้าเป็ดที่ติดกับข้าวมันไก่ สรุปเขาบอกใช้ไม่ได้นั่งข้างในต้องจ่ายเต็ม ยืนยันว่าเจ้าของเรื่องพูดเรื่องจริง ตนกับเพื่อนโดนมากับตัว

        ต่อมา เฟซบุ๊ก ข้าวมันไก่เจ๊อ้วน ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า “ทางร้านต้องขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่งค่ะ ร้านข้าวมันไก่เจ้อ้วนและนกเป็ดย่างไม่มีนโยบายในการแยกการเข้าใช้บริการตามสิทธิ์ชำระเงิน

ทั้งนี้เพราะเกิดความเข้าใจผิดของพนักงาน โดยได้ตักเตือนและแจ้งพนักงานเรียบร้อยแล้ว ต้องขออภัยอีกครั้งในความไม่เหมาะสมและหวังว่าจะได้ให้บริการคุณลูกค้าอีกครั้งค่ะ”