กระทรวงสาธารณสุข แถลงอย่างเป็นทางการ ไทยพบผู้ป่วยโควิด สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกแล้ว เป็นชาวอเมริกันเดินทางมาจากสเปน วอนคนไทยร่วมมือป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด โดยข้อมูลองค์การอนามัยโลกพบว่า แม้จะระบาดกันง่าย แต่ยังไม่มีใครเสียชีวิต
วันที่ 6 ธันวาคม 2564 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวถึงประเด็นสถานการณ์และความคืบหน้าการเฝ้าระวังสายพันธุ์โอมิครอนว่า ตอนนี้มีการตรวจพบผู้ป่วยโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยแล้ว
สำหรับผู้ป่วยรายดังกล่าว เป็นชาวอเมริกันที่เป็นนักธุรกิจ และอาศัยอยู่ในสเปน 1 ปี เดินทางมาจากประเทศสเปน เก็บตัวอย่างครั้งแรกวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และเก็บตัวอย่างซ้ำวันที่ 3 ธันวาคม ผลปรากฏว่า มีโอกาสเป็นสายพันธุ์โอมิครอนสูงมากถึง 99.92% และนับเป็นผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอนคนแรกในประเทศไทย
สำหรับผู้ป่วยรายดังกล่าว เป็นชาวอเมริกันที่เป็นนักธุรกิจ และอาศัยอยู่ในสเปน 1 ปี เดินทางมาจากประเทศสเปน เก็บตัวอย่างครั้งแรกวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และเก็บตัวอย่างซ้ำวันที่ 3 ธันวาคม ผลปรากฏว่า มีโอกาสเป็นสายพันธุ์โอมิครอนสูงมากถึง 99.92% และนับเป็นผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอนคนแรกในประเทศไทย
ในส่วนของไทม์ไลน์ผู้่วยคนดังกล่าว มีดังนี้
ข้อมูลเบื้องต้น
ผู้ป่วยเป็นชายอายุ 35 ปี ถือสัญชาติอเมริกัน อาชีพนักธุรกิจ อาศัยที่สเปน 1 ปี ไม่มีโรคประจำตัว รับวัคซีน 1 เข็มยี่ห้อ Johnson & Johnson จากอเมริกา เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564
28 พ.ย. : ชายคนนี้ตรวจโควิด ด้วยวิธี RT-PCR ไม่พบ หลังจากนั้นจึงไปทานข้าวกับเพื่อน และเพื่อนไม่มีใครติดโควิดจนถึงปัจจุบัน
29 พ.ย. : บินจากสเปน ไปเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ โดยที่ไม่ได้ถอดหน้ากากอนามัย ไม่ได้คุยกับใคร พักเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ 9 ชม.
30 พ.ย. : เครื่องลงจากดูไบมาถึงสุวรรณภูมิ หลังจากลงเครื่อง ได้ไปเก็บตัวอย่างที่โรงพยาบาลคู่สัญญา และกลับเข้าโรงแรม
1 ธ.ค. : ได้รับแจ้งจาก รพ. ว่าตรวจพบเชื้อโควิด
3 ธ.ค. : ส่งตัวอย่างตรวจเชื้อที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอให้ประชาชนร่วมมือในการป้องกันโควิด 19 อย่างเคร่งครัด เช่น ล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และขอยืนยันข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่เริ่มระบาด ยังไม่มีใครเสียชีวิตจากสายพันธุ์นี้ แต่ยอมรับว่า สายพันธุ์นี้ระบาดค่อนข้างง่าย ถ้าใครยังไม่ได้รับวัคซีนก็ให้รีบมาฉีดวัคซีนโควิด ส่วนใครที่ฉีดเข็ม 2 มานานแล้ว ให้รอประกาศอีกครั้ง
ภาพจาก Chanawat Phadwichit / Shutterstock.com
ภาพจาก Ariya J / Shutterstock.com