ตามรอย ลิซ่า BLACKPINK เที่ยวอยุธยา ไหว้พระ 3 วัดดังเมืองกรุงเก่า

ทำเอาอยุธยาแตกไปเลยทีเดียว สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวชมโบราณสถาน ไหว้พระวัดสวยที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของ ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK หลังจากที่เสร็จสิ้นทัวร์คอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ENCORE ที่เมืองไทย เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2566

ลิซ่า BLACKPINK ใส่ผ้าซิ่น-เสื้อผ้าฝ้าย เที่ยวอยุธยา สวยอย่างไทย ซอฟต์พาวเวอร์ที่แท้ทรู

 โดยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2566 ลิซ่าได้โพสต์ภาพสวมชุดผ้าไทย เสื้อสีขาวกับผ้าถุงลายไทยสีน้ำเงิน-ขาว ยืนหน้าโบราณสถาน ลงอินสตาแกรม พร้อมเขียนแคปชั่น พิกัด Ayutthaya โดยการไปเที่ยวอยุธยาในครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวพร้อมกับเพื่อน ๆ คนสนิท กับโปรแกรมไหว้พระเดย์ทริปที่อยุธยา ได้แก่ วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ และวัดแม่นางปลื้ม แน่นอนว่าการเที่ยวชมโบราณสถาน ไหว้พระวัดดังของ ลิซ่า BLACKPINK ทำให้หลาย ๆ คนให้ความสนใจและต้องการที่จะไปตามรอยศิลปินสาวคนนี้อย่างแน่นอน ซึ่งกระปุกดอทคอมเลยขอถือโอกาสแนะนำเรื่องราวประวัติศาสตร์และสิ่งที่น่าสนใจของ 3 วัดสวยแห่งเมืองกรุงเก่า ทั้งวัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ และวัดแม่นางปลื้ม เพื่อเป็นความรู้และข้อมูลดี ๆ สำหรับคนที่อยากไปไหว้พระอยุธยาตามรอย ลิซ่า BLACKPINK กัน

วัดมหาธาตุ

 วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดที่มีความสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของ สมเด็จพระสังฆราช ด้วย อย่างไรก็ตาม วัดแห่งนี้ได้ถูกทำลายและปล่อยทิ้งร้างหลังเสียกรุงครั้งที่ 2

วัดอยุธยา

ภาพจาก : Instagram @lalalalisa_m

วัดอยุธยา

ภาพจาก : Instagram @lalalalisa_m

วัดอยุธยา

ภาพจาก : Instagram @lalalalisa_m

วัดอยุธยา

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดมหาธาตุ

  • พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว แต่ราชทูตลังกาที่เคยมาเยี่ยมชมวัดมหาธาตุ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ กล่าวไว้ว่า ที่ฐานของพระปรางค์มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ มังกร เรียงรายอยู่โดยรอบ รูปเหล่านี้อาจหมายถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล
วัดอยุธยา
  • เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ลดหลั่นกัน 4 ชั้น 8 เหลี่ยม ชั้นบนสุดประดิษฐานปรางค์ขนาดเล็ก ซึ่งเจดีย์องค์นี้จัดเป็นเจดีย์ที่แปลกตา และพบเพียงองค์เดียวในอยุธยา
วัดอยุธยา
  • วิหารที่ฐานชุกชี ของพระประธานในวิหาร กรมศิลปากรพบว่ามีผู้ลักลอบขุดลงไปลึกถึง 2 เมตร จึงดำเนินการขุดต่อไปอีก 2 เมตร พบภาชนะดินเผาขนาดเล็ก 5 ใบ บรรจุแผ่นทองเบารูปต่าง ๆ
  • พระปรางค์ขนาดกลาง ภายในพระปรางค์มีภาพจิตรกรรมเรือนแก้ว ซึ่งเป็นตอนหนึ่งในพุทธประวัติ
  • ตำหนักพระสังฆราช บริเวณพื้นที่ว่างทางด้านทิศตะวันตก เป็นสถานที่ที่เป็นที่ตั้งพระตำหนักพระสังฆราช ซึ่งราชทูตลังกาได้กล่าวไว้ว่า เป็นตำหนักที่สลักลวดลายปิดทอง มีม่านปักทอง พื้นปูพรม มีขวดปักดอกไม้เรียงราย เป็นแถวเพดานแขวนอัจกลับ (โคม) มีบัลลังก์ 2 แห่ง
  • เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่ โดยเศียรพระพุทธรูปนี้เป็นพระพุทธรูปหินทรายศิลปะอยุธยาที่เหลือแค่ส่วนเศียร วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความงดงามแปลกตา จนเลื่องลือกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกสิ่งหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วัดอยุธยา

ภาพจาก : Instagram @lalalalisa_m

 สำหรับวัดมหาธาตุ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยมีอัตราค่าเข้าชมสำหรับชาวไทย 10 บาท และชาวต่างประเทศ 50 บาท สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0-3579-6447

วัดหน้าพระเมรุ

 วัดหน้าพระเมรุ ชื่อเต็มคือ วัดหน้าพระเมรุราชิการามวรวิหาร ตั้งอยู่ในอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ริมคลองสระบัวด้านทิศเหนือของคูเมือง (เดิมเป็นแม่น้ำลพบุรี) ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง เป็นวัดเก่าแก่โบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งไม่ได้ถูกพม่าเผาทำลาย แต่เดิมเป็นสถานที่เพื่อประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพกษัตริย์แผ่นดินกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งเป็นราชธานี

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดหน้าพระเมรุ

  • พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ เรียกสั้น ๆ ว่า พระพุทธนิมิต พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทรงเครื่องพระมหากษัตริย์ หน้าตักกว้าง 9 ศอก (ประมาณ 4.4 เมตร) สูง 6 เมตร หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ลงรักปิดทอง เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง และคุ้มครองบ้านคุ้มครองเมือง เนื่องจากเมื่อครั้งเกิดสงคราม กองทัพพม่ายกทัพมาตั้งบริเวณวัดหน้าพระเมรุ เพื่อรอเข้าตีกรุงศรีอยุธยาถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำลายวัดหน้าพระเมรุแต่อย่างใด

วัดอยุธยา

ภาพจาก : kwanchai / Shutterstock.com

  • พระอุโบสถ สร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น หน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาค และมีรูปราหูสองข้างติดกับเศียรนาค ล้อมรอบด้วยหมู่เทพพนม จำนวน 26 องค์ ภายในพระอุโบสถมีเสาเหลี่ยม 2 แถว แถวละ 8 ต้น เสามีลายทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีบัวหัวเสาเป็นลักษณะบ่งชัดว่าเป็นแบบอยุธยา เพดานเป็นไม้แกะสลักรูปดวงดาวสลับซับซ้อนสวยงามมาก ลักษณะของพระอุโบสถโดยรวมเป็นรูปสำเภากว้าง 16 เมตร ยาว 50 เมตร ไม่มีหน้าต่าง เจาะผนังเป็นช่องลม เพื่อให้มีแสงสว่างและมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก

วัดอยุธยา

ภาพจาก : kwanchai / Shutterstock.com

  • พระพุทธคันธารราฐมหาประสิทธิ์ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารสรรเพชญ์ หรือพระวิหารน้อย (วิหารเขียน) เป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดี ปางปฐมเทศนา เนื้อศิลาเขียวแกะสลัก ประทับห้อยพระบาทบนดอกบัวบาน หน้าตักกว้าง 1.70 เมตร สูง 520 เมตร เป็นพระพุทธรูปศิลาเขียวประทับนั่งห้อยพระบาทที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน อายุประมาณ 1,500 ปี นับเป็น 1 ใน 6 พระพุทธรูปที่สร้างจากศิลาที่มีอยู่ในโลก และเป็น 1 ใน 5 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย

วัดอยุธยา

ภาพจาก : deejungloei / Shutterstock.com

  • หลวงพ่อขาว ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารด้านหลังพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางชนะมาร หุ้มด้วยเงินสีขาว เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สมัยอยุธยา ปัจจุบันมีผู้ให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก

วัดอยุธยา

ภาพจาก : kwanchai / Shutterstock.com

  • พระพุทธลีลา ประดิษฐานในวิหารหลวง เป็นประติมากรรมนูนต่ำของพระพุทธรูปปางลีลา ศิลปะลพบุรี มีความเชื่อกันว่าหากต้องการสิ่งใดให้มากราบไหว้ขอต่อท่าน แล้วจะสำเร็จสมดังปรารถนา

วัดอยุธยา

ภาพจาก : kwanchai / Shutterstock.com

  • เจดีย์ราย 3 องค์ เป็นเจดีย์ที่มีรากไทรแผ่เข้าครอบคลุมดูกลมกลืนราวกับเป็นต้นไม้เจดีย์ ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถของวัดหน้าพระเมรุ โดยเจดีย์ดังกล่าวนี้ได้ปรากฏในภาพวาดกรุงศรีอยุธยาในหนังสือของ อ็องรี มูโอ นักสำรวจชาวฝรั่งเศส ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 5 อีกด้วย
วัดอยุธยา

           สำหรับวัดหน้าพระเมรุ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดหน้าพระเมรุราชิการาม พระอารามหลวง โทรศัพท์ 08-0668-1070
 

วัดหน้าพระเมรุ ไหว้พระพุทธนิมิตอันศักดิ์สิทธิ์ ขอพรให้สมหวังดังใจคิด

วัดแม่นางปลื้ม

 วัดแม่นางปลื้ม ตั้งอยู่บริเวณคลองเมือง ตรงข้ามตลาดหัวรอ เป็นวัดที่มีความเก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดท่าโขลง เพราะเป็นจุดที่โขลงช้างจะผ่านก่อนเข้าเพนียด เป็นหนึ่งในวัดที่ตั้งค่ายของพม่าในการจุดปืนใหญ่ระดมยิงเข้าไปในกรุงศรีอยุธยา ทำให้บริเวณนี้ไม่ถูกทำลาย จึงหลงเหลือสถาปัตยกรรมก่อสร้างแบบไทยโบราณที่ยังคงความสมบูรณ์และสวยงามมากที่สุดจนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดแม่นางปลื้ม

  • หลวงพ่อขาว ชื่อเต็มคือ พระพุทธนิมิตมงคลศรีรัตนไตร ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารเก่าแก่ เป็นพระประธานปางมารวิชัยองค์สีขาวบริสุทธิ์ มีเพียงพระเกศาเท่านั้นที่ทาสีดำ ทำจากปูนเปลือกหอย ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น ในปัจจุบันเป็นที่เชื่อถือกันว่า หลวงพ่อขาวแห่งวัดแม่นางปลื้มขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ขอสิ่งใดหลวงพ่อก็จะช่วยให้สมหวัง และต้องกลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยนิยมนำขนมจีนน้ำยามาถวายเพื่อขอโชคลาภด้วย
วัดอยุธยา
  • เจดีย์สิงห์ล้อม เป็นเจดีย์ประธานทรงลังกาขนาดใหญ่ ทรงระฆังคว่ำตั้งอยู่บนฐานทักษิณสี่เหลี่ยม มีรูปสิงห์รายล้อม 36 ตัว มีบานบัวประดับด้วยบัวลูกฟัก ลายบัวสืบทอดจากศิลปะเขมร-ลพบุรี แต่ฐานบัวค่อนข้างสูง สันนิษฐานว่าเจดีย์สิงห์ล้อมนี้ได้รับอิทธิพลจากเจดีย์ช้างล้อมในศิลปะสุโขทัย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะเขมรในสมัยนั้น เนื่องจากใบหน้าและท่าทางของสิงห์วัดแม่นางปลื้มเทียบเคียงได้กับสิงห์เขมร ส่วนเจดีย์ประธานนั้นเป็นเจดีย์ทรงระฆังในยุคต้น มีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับเจดีย์ทรงระฆังในศิลปะสุโขทัย และมีอายุใกล้เคียงกับเจดีย์ประธานวัดมเหยงคณ์
วัดอยุธยา
  • ซุ้มประตูวัด เป็นซุ้มประตูวัดแบบโบราณ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังกรุงศรีอยุธยาในอดีต เป็นซุ้มประตูที่มองตรงเข้าไปเห็นหลวงพ่อขาวอย่างเหมาะสมพอดี แต่เดิมเป็นประตูสำหรับพระมหากษัตริย์เสด็จฯ ผ่านเข้า-ออกเท่านั้น ขุนนางและประชาชนธรรมดาไม่สามารถเดินผ่านได้

วัดอยุธยา

ภาพจาก : Instagram @dianaflipo

วัดอยุธยา

ภาพจาก : Instagram @dianaflipo

  • โบสถ์วัดแม่นางปลื้ม เป็นโบสถ์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าบันตกแต่งด้วยเครื่องถ้วย ประดับด้วยปูนปั้นลวดลายวิจิตร ภายในประดิษฐานหลวงพ่อปลื้ม หรือ พระพุทธมหาปิติเทวะนฤมิตปฏิมากรณ์ พระประธานของโบสถ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยลงรักปิดทอง

วัดอยุธยา

ภาพจาก : Onkamon / Shutterstock.com

 สำหรับวัดแม่นางปลื้ม เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0-3579-6447

          ทั้งนี้ สำหรับทริปไหว้พระที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาของสาว ลิซ่า BLACKPINK เป็นโปรแกรมวันเดย์ทริปที่จะเดินทางไปยัง 3 วัด ได้แก่ วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ และวัดแม่นางปลื้ม ก่อนจะปิดท้ายที่ ร้านอาหารขาวละออ ร้านดังที่ได้รับการแนะนำอยู่ในคู่มือมิชลินไกด์ ประเทศไทย เชื่อได้เลยว่ากระแสของ ลิซ่า BLACKPINK ที่นุ่งผ้าไทยไปไหว้พระในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะต้องทำให้เหล่าบลิงค์และหลาย ๆ คนให้ความสนใจและไปตามรอยศิลปินที่รักกันอย่างแน่นอน

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *