กรมอนามัย รณรงค์ ลดเผา ลดธูป ลดฝุ่น ช่วงเทศกาลตรุษจีน
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยลดการเพิ่มฝุ่นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ใช้ธูปขนาดเล็กหรือ
ธูปสั้นเป็นทางเลือก ลดการจุดธูปครั้งละมาก ๆ ลดการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เพื่อลดฝุ่นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนของทุกปี คนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่จะประกอบพิธีไหว้เทพเจ้า ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ซึ่งการจุดธูป
หรือประทัด รวมทั้งเผากระดาษเงิน กระดาษทองนั้น อาจทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก และมลพิษต่าง ๆ
ทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ รวมถึงสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ ในขี้เถ้าธูปและกระดาษเงินกระดาษทองยังพบโลหะหนัก ซึ่งหากมีการจัดการที่ไม่เหมาะสม จะทำให้มีปนเปื้อนในห่วงโซ่อาหารและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล จาม ไอ ระคายคอ หายใจลำบากและอาจเกิดอาการปวดศีรษะ เหนื่อยล้า ง่วงนอนและหมดสติได้หากสูดดมเป็นเวลานาน และสารเบนซีน โพลีไซคลิกอะโร-มาติกไฮโดรคาร์บอน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการเผากาว ขี้เลื่อยและน้ำหอม หากได้รับต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้
นายแพทย์อรรถพล กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยจึงขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันลดฝุ่นละอองในสิ่งแวดล้อมไม่ให้กระทบต่อชุมชนและคนรอบข้าง ป้องกันตนเองและครอบครัวให้ปลอดภัย โดยสามารถทำได้ ดังนี้
1) เลือกธูปขนาดสั้นแทนธูปขนาดยาว เพื่อให้เกิดควันน้อยกว่าหรือเปลี่ยนมาใช้ธูปไฟฟ้า สำหรับกระดาษเงิน กระดาษทอง ควรเลือกกระดาษที่มีฉลากและแสดงข้อความครบถ้วน เช่น วิธีใช้ การเก็บรักษา คำเตือนเพื่อความปลอดภัย ชื่อที่อยู่ผู้ผลิตและผู้นำเข้า ลักษณะภาชนะบรรจุอยู่ในสภาพเรียบร้อย 2) ลดระยะเวลาการจุดธูปในสั้นลง ดับธูปให้เร็วขึ้น และระมัดระวังการเกิดเพลิงไหม้ 3) เลี่ยงการจุดธูปหรือเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ในบริเวณที่อับและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก หากต้องจุดธูปภายในบ้าน ควรเปิดประตู หน้าต่าง หรือจุดนอกบ้านในพื้นที่เปิดโล่ง สำหรับวัดหรือศาลเจ้า ควรตั้งกระถางธูปไว้นอกอาคารหรือในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก เลี่ยงจุดธูปปักลงอาหาร หรือเผากระดาษเงิน กระดาษทองในบริเวณใกล้กับอาหาร เพราะอาจมีการหล่นหรือปลิวของขี้เถ้าซึ่งมีโลหะหนักลงสู่อาหารและน้ำดื่ม ส่วนกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็กหรือผู้ที่มีโรคระบบทางเดินหายใจ ควรเลี่ยงการอยู่ใกล้บริเวณที่จุดธูปหรือเผากระดาษ เมื่อเสร็จพิธีกรรม หรือหลังสัมผัสธูปหรือกระดาษเงิน กระดาษทอง ควรล้างมือ ล้างหน้า ล้างตา และเก็บกวาดก้านธูป ขี้เถ้า ใส่ถุงและมัดปากถุงให้แน่น ป้องกันการฟุ้งกระจาย นำไปกำจัดอย่างถูกต้อง ไม่ทิ้งรวมกับขยะทั่วไป
“สำหรับผลจากการสำรวจอนามัยโพล ปี 2566 พบว่า ประชาชนมีความวิตกกังวลหากมีฝุ่น PM2.5 สูงเกินมาตรฐานในช่วงเทศกาลตรุษจีน ร้อยละ 65.91 โดยเรื่องที่กังวล 3 อันดับแรก คือ ผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดจากฝุ่น ร้อยละ 74.09 รองลงมาคือ กลัวจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพกับกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ร้อยละ 44.93 และฝุ่น PM2.5 ทำให้ป่วยหรือทำให้โรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ มีอาการรุนแรงมากขึ้น ร้อยละ 44.02 ตามลำดับ ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของกรมควบคุมมลพิษ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน วันที่ 10 – 13 กุมภาพันธ์ 2567 สถานการณ์ PM2.5 ยังมีแนวโน้มสูงเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนตรวจเช็คคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันตนเอง หากต้องออกนอกบ้านไปอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้ง หมั่นสังเกตอาการตนเอง และคนในครอบครัวตลอดเวลา” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากนี้ ต้องระวังการจุดประทัดด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเป็นอันตรายที่นอกจากจะทำให้ระคายเคืองผิวหนัง ตา แสบจมูก ผิวหนังไหม้ และอาจเกิดไฟไหม้หรือระเบิดทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตได้ ดังนั้น การจุดประทัดควรให้ห่างจากบ้านเรือน แนวสายไฟ วัตถุไวไฟ และเป็นบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรจุดครั้งละมากๆ และเด็กเล็กไม่ควรจุดประทัดเองโดยเด็ดขาด
*** กรมอนามัย / 9 กุมภาพันธ์ 2567