นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตามภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชียลที่มีการแชร์เป็นวงกว้าง เป็นภาพถุงดำที่นำมาใส่อาหาร มีการตั้งคำถามว่า “สามารถเอามาใส่ของที่เราทานได้ด้วยหรอ ถามทางร้านเขาบอกว่าเขาใส่ถุงแบบนี้กันหมดแล้ว พบว่า เหม็นทั้งกลิ่นเหม็นทั้งสี นั้น
ศูนย์ข้อมูลวิทยาศาสตร์ วศ.อว. ขอเตือนว่า ถุงดำส่วนมากทำจากพลาสติกรีไซเคิล มีการใส่สีดำหรือสีอื่นให้เข้มเพื่อปกปิดตำหนิ และสิ่งสกปรก ซึ่งไม่ได้เป็นชนิดสำหรับสัมผัสอาหาร ประชาชนจึงไม่ควรนำมาใส่อาหารซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อมาใส่อาหารร้อนหรืออาหารที่มีไขมัน เช่น กล้วยแขก ปาท่องโก๋ หากนำถุงพลาสติกมาใช้ ผิดวัตถุประสงค์ก็จะทำให้อาหารที่บรรจุนั้นไม่ปลอดภัย และอาจมีการปนเปื้อนของสารที่เป็นอันตราย จากพลาสติกสู่อาหารได้ เช่น โลหะหนัก สารปนเปื้อนที่หลงเหลือจากกระบวนการรีไซเคิล หรือสีที่มาผสมพลาสติก โดยสารเหล่านี้จะค่อยๆ สะสมในร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ อีกทั้งอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคและก่อให้เกิดโรคติดต่อรุนแรงได้
ปัจจุบันข้อกฏหมายกำหนดให้ชนิดของพลาสติกรีไซเคิลที่สามารถนำกลับมาใช้เป็นวัสดุสัมผัสอาหารได้ ต้องเป็นพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) เท่านั้น แต่ถุงพลาสติกส่วนใหญ่ผลิตจากพลาสติกชนิด PE หรือ PP
ทั้งนี้ บางประเทศมีการผลิตถุงใส่อาหารที่มีสีดำ แต่เป็นเกรดสำหรับอาหาร (food grade) ได้มาตรฐาน สำหรับภาพที่ปรากฏในสื่อ น่าเชื่อว่าเป็นถุงดำที่นำมาใช้น่าจะเป็นถุงที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ใส่ขยะ จึงขอเตือนมายังผู้ใช้ว่า ห้ามใช้ถุงดำดังกล่าวโดยเด็ดขาด เพราะก่ออันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค