เยาวชนเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 14 กรุงเทพมหานคร สู่เวทีระดับประเทศ

                เมื่อวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โครงการ TO BE NUMBER ONE  ได้จัดเวทีการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE (TO BE NUMBER ONE IDOL)รุ่นที่ 14 ประจำปี 2567 กรุงเทพมหานคร ณ Island HALL ชั้น 3  ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ กรุงเทพมหานคร

                 โดยมีนายแพทย์สุนทร   สุนทรชาติ  ผู้อำนวยการสำนักอนามัย  กรุงเทพมหานคร  ให้การต้อนรับและกล่าวว่าการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE  IDOL ระดับกรุงเทพมหานครถือเป็นภาคสุดท้ายก่อนที่เยาวชนผู้ได้รับการคัดเลือกผ่านเข้ารอบระดับประเทศจะเข้าไปฝึกฝนตนเองในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ในฐานะที่กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานหลักในโครงการ TO BE NUMBER ONE ขอชื่นชมเยาวชนคนเก่งและดี TO BE NUMBER ONE ที่เข้าร่วมแสดงความสามารถทั้งจากกรุงเทพมหานคร และทุกจังหวัด ในวันนี้ ขอให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจว่า ได้ทำหน้าที่ตามหาฝันของตัวเอง โดยไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆ ที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา  สิริวัฒนาพรรณวดี  องค์ประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE พระราชทานมาให้ผ่านเลยไป จึงขอเชิญชวนให้เด็กๆ ทุกคนได้ตระหนักและสำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงให้ความสำคัญกับพวกเรา ให้ได้ค้นพบข้อดีเป็นจุดเด่นของตัวเอง รวมทั้งได้รับโอกาสการพัฒนาให้เราเป็นทั้งคนเก่งและ คนดี  มีความสามารถและพร้อมที่จะก้าวออกมายืนอยู่แถวหน้า เพื่อเป็นต้นแบบให้กับคนอื่น

                 นายแพทย์ธิติ  แสวงธรรม  รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต  ในฐานะผู้แทนเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE  กล่าวว่า  TO BE NUMBER ONE IDOL เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้น เพื่อสร้างเยาวชนต้นแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ค้นพบความสามารถ จุดดี จุดเด่นของตัวเอง แล้วสามารถพัฒนาต่อยอดความสามารถ ความฝันของเยาวชนให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตัวเองชื่นชอบ เป็นที่ยอมรับ มีชื่อเสียงในระดับประเทศ ดังเป็นที่ประจักษ์จนสามารถกล่าวได้ว่าสมาชิก TO BE NUMBER ONE IDOL มีพัฒนาการ และ มีการเติบโตในชีวิตที่ดี

                การประกวดในวันนี้ แม้จะเป็นเวทีระดับกรุงเทพมหานคร แต่การมายืน ณ จุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกคนต้องผ่านการคัดเลือก ต้องผ่านเกณฑ์และคุณสมบัติที่กำหนดของโครงการ ขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับการคัดเลือกผ่านเข้ารอบระดับประเทศ  ซึ่งจะได้รับโอกาสเข้ารับการพัฒนาตนเองในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ในช่วงเดือนเมษายน  ขณะเดียวกันก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ผิดหวัง  แม้จะไม่ชนะในเวทีวันนี้  แต่ทุกคนชนะใจตัวเอง  ได้ก้าวผ่านความกลัวสู่ความกล้าอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นต้นทุนและแรงบันดาลใจ ให้เกิดความมุ่งมั่น พัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ชื่นชอบต่อไป

                หม่อมหลวงยุพดี  ศิริวรรณ  เลขาธิการมูลนิธิโครงการ TO BE NUMBER ONE  และที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE  กล่าวว่าการประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 14 ระดับกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2567 นี้ มีเยาวชนเข้าร่วมรวมทั้งสิ้น 304 คน ผลการตัดสิน มีผู้ผ่านเข้ารอบได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนกรุงเทพมหานคร รวม 12 คน  แบ่งเป็น ฝ่ายชาย   ได้แก่  TI 083 นายชิติพัทธ์ อุดมรัตนศักดิ์ จ.ตาก, TI 135 นนายโรจน์ฤทธิ์ นนท์พละ จ.สกลนคร,TI 169 นายศิวกร ใต้ชัยภูมิ จ.กรุงเทพฯ , TI 147 นายอันเดร  กิตติพัจน์  เย็ค จ.ขอนแก่น,TI 077 นายปีมงคล บุญกำเหนิด จ.พิษณุโลก, TI 027 นายปฏิกาญจน์ หลุยจำวัล จ.เชียงใหม่, TI 139 นายภูวนาท ดีวุ่น จ.นนทบุรี และ TI 097 นายณัฐวุฒิ บำรุงศิลป์ จ.กรุงเทพฯ  ฝ่ายหญิง ได้แก่  TI 262  นางสาวแก้วขวัญ ชัชวาล จ.ขอนแก่น, TI 096 นางสาวทอตะวัน เต็งรัง จ.ภูเก็ต  ,TI 020 นางสาวอัจฉราพร สมุทรจักร จ.พะเยา และTI 274 นางสาวพิชญ์ภัสสร ธรรมสาโรช จ.สระแก้ว   

                                       

                น.ส.ทานตะวัน  เต็งรัง “แซลมอน” TI 096 ผู้ผ่านเข้ารอบระดับประเทศฝ่ายหญิง กล่าวว่าเข้าประกวดโครงการนี้เพราะอยากมาท้าทายความสามารถของตนเองและมีความมุ่งมั่นอยากเป็น TO BE NUMBER ONE IDOL คำว่าคนเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL ในความคิดของตัวเองมองว่าควรเป็นคนที่ดีมาจากข้างใน คือ จิตใจดี พฤติกรรมดี นิสัยดี มารยาทดี ครบในทุกด้าน การแข่งขันครั้งนี้นอกจากการร้องและเต้นแล้ว ตนได้นำประสบการณ์จากการประกวดในรอบภาคใต้ที่ผ่านมา พัฒนาเพิ่มความมั่นใจของตนเอง นำเสนอจุดเด่นของตนเองคือความสดใส ยิ้มง่าย ขี้เล่น กล้าแสดงออก ภูมิใจที่วันนี้ได้เข้ารอบระดับประเทศและในระหว่างเก็บตัวจะตั้งใจฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด  อยากบอกเพื่อนๆที่เข้ามาประกวดทุกคนว่าอย่าท้อขอให้ทุกคนมีความกล้า มั่นใจในตัวเอง อย่ากลัว เชื่อว่าสักวันทุกคนต้องทำได้

                นายโรจน์ฤทธิ์ นนท์พละ “ตะวัน” TI 135  ผู้ผ่านเข้ารอบประดับประเทศฝ่ายชายกล่าวว่าตนเองมาประกวดในรอบกรุงเทพฯครั้งนี้มีความมั่นใจมากขึ้นและคิดว่าทำได้ดีกว่าตอนประกวดรอบระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะตอนนั้นยังรู้สึกทำโชว์ได้ยังไม่ค่อยดีและยังขาดความมั่นใจ เหตุผลที่เข้ามาประกวดในเวที TO BE NUMBER ONE IDOL เพราะอยากพัฒนาตนเองและต่อยอดความฝันที่อยากเป็นศิลปินนักแสดง  มองว่าการเป็นคนเก่งและดี นอกจากต้องเก่งด้านการเรียนแล้วยังต้องมีจิตใจที่ดี มีความเป็นผู้นำ มีจิตอาสา และรู้จักช่วยเหลือสังคมส่วนรวม อยากฝากบอกเพื่อนทุกคนว่าอย่าเพิ่งท้อแม้จะยังไม่ได้ในวันนี้ ให้ลองกลับไปทบทวนตัวเองว่าเรามีผิดพลาดตรงไหน แล้วแก้ไขพัฒนาตัวเอง ฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อให้ตนเองมีความสามารถเพิ่มขึ้นแล้วเราจะประสบความสำเร็จได้

                นายปฏิกาญจน์ หลุยจำวัล “แฮม” TI 027 ผู้ผ่านเข้ารอบระดับประเทศฝ่ายชาย กล่าวว่ามาประกวดครั้งนี้เป็นปีแรก เพราะอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตนเอง มองว่าโครงการ TO BE NUMBER ONE เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้มีพื้นที่ในการแสดงออก และเป็นการรณรงค์ให้วัยรุ่นห่างไกลยาเสพติด ด้วยการส่งเสริมให้ทำกิจกรรมต่างๆ มองว่าตนเองไม่ได้เก่งไปกว่าคนอื่นๆที่มาประกวด แต่มีความพยายาม ไม่ท้อ หมั่นฝึกซ้อมและทำให้เต็มที่ การร้องเพลงและการเต้นให้ประโยชน์กับตนเองหลายอย่างช่วยจัดการกับอารมณ์ของตนเองให้รู้สึกผ่อนคลายเวลาเหนื่อยหรือเครียดได้โดยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี การเป็น TO BE NUMBER ONE IDOL ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน ทั้งด้านความประพฤติ บุคลิกภาพ และอยากฝากบอกเพื่อนๆว่าให้ลองลงมือทำดู ไม่มีสิ่งใดที่เราตั้งใจแล้วจะทำไม่ได้ ขอให้ทุกคนมีความมั่นใจก็จะประสบผลสำเร็จได้

                น.ส.ชัชฎาภรณ์ พุทธรักขิต “เบสท์” TI 072 หนึ่งในผู้เข้าประกวดกล่าวว่ามาประกวดเวทีนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากพี่ IDOL รุ่นที่ 13  ประกอบกับตนเองมีความสนใจด้านการร้องเพลงและเต้น และจะนำไปต่อยอดศึกษาต่อในคณะนิเทศศาสตร์ที่ตนเองชื่นชอบ จึงคิดว่าการมาประกวดในเวทีนี้จะช่วยพัฒนาต่อยอดให้ตนเองได้ ที่สำคัญทำให้ตนเองไม่รู้สึกเขินอายและกล้าแสดงออกมากขึ้น โดยใช้เวลาฝึกซ้อมก่อนมาประกวดประมาณ 1 เดือน มองว่าการเป็นคนเก่งและดีนอกจากจะเก่งเรื่องเรียนแล้วยังต้องเป็นคนดีที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ รู้จักแสดงออกในทางที่ถูกต้อง มองว่าเวทีนี้สามารถให้อิสระในการแสดงได้ ทำให้เราสามารถค้นหาจุดเด่นของตัวเองได้ว่าเราเหมาะกับเพลงแบบไหน

                นายณชิต บุญยอนกุล“สโนว์”TI 161 หนึ่งในผู้เข้าประกวดกล่าวว่าเหตุผลที่ตนเองมาประกวด TO BE NUMBER ONE IDOLเพราะอยากมาค้นหาขีดจำกัดของตัวเองด้านการร้องและการเต้นว่าตัวเราจะสามารถทำได้แค่ไหน และอยากลองทำอะไรใหม่ๆ ได้เจอสังคมใหม่ๆ จากเดิมที่เป็นคนไม่กล้าแสดงออกแต่ชอบดูชอบฟังเพลงแนว K-POP จึงอยากจะลองพิสูจน์ตัวเองดูว่าจะทำในสิ่งที่ชอบได้หรือไม่ มาประกวดรอบนี้ได้เน้นในเรื่องการจัดการอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง ให้มีความมั่นใจมากขึ้นตั้งใจใช้เวทีให้คุ้มค่า มองว่าการมาเวที TO BE NUMBER ONE IDOL ครั้งนี้แม้จะเป็นครั้งแรกก็รู้สึกคุ้มค่า เพราะได้รับประสบการณ์หลายอย่าง ได้พบเจอคนเก่งจากที่ต่างๆ และได้มีโอกาสพัฒนาความสามารถของตัวเอง อยากบอกเพื่อนทุกคนให้ลองก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและมาลองพิสูจน์ตัวเองในเวทีนี้ด้วยกัน

                น.ส.เบญจสิริ พละกรด“อันดามัน” TI 174 หนึ่งในผู้เข้าประกวดกล่าวว่ามาเข้าประกวดเป็นปีที่ 2 แล้ว มองว่าการเข้ามาประกวดในเวที TO BE NUMBER ONE IDOL สำหรับตนเองคือ “พรแสวง” เพราะไม่ได้เก่งทั้งการร้องและเต้น แม้การประกวดในระดับภาคจะยังไม่ได้รับคัดเลือก แต่ก็เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ตนเองมาสู้ต่อในรอบกรุงเทพฯ มองว่าความพยายามไม่ได้ทำร้ายใคร ทุกความพยายามแม้จะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ทุกความสำเร็จสามารถเกิดได้จากความพยายาม ตนเองเป็นเด็กที่ทำกิจกรรมกับชมรม TO BE NUMBER ONE ของโรงเรียนอยู่แล้ว เช่นกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติด  กิจกรรมค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE รุ่นที่ 28 ถ้ามีโอกาสอยากนำประสบการณ์ที่ได้รับจากโครง TO BE NUMBER ONE ไปใช้ในการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ ตนเองเชื่อว่าทุกคนย่อมมีความฝันที่ไม่เหมือนกัน และความฝันก็เป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ทุกคนตั้งใจที่จะทำตามความฝันของตนเอง ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆก็อย่าย่อท้อ สักวันจะต้องเป็นวันของเรา

                นายปฏิภาณ จุฑามณี “ลีโอ” TI 023 หนึ่งในผู้เข้าประกวดกล่าวว่า ตนเองเป็นสมาชิก TO BE NUMBER ONE ของโรงเรียนวชิรธรรมสาธิตอยู่แล้ว และได้ร่วมทำกิจกรรมกับชมรมฯ ส่วนใหญ่เป็นการประกวดในเวทีต่างๆ สำหรับตนเองมีความถนัดด้านการร้องเพลง มองว่าการได้เข้าประกวดในเวทีนี้สามารถนำไปต่อยอดเป็นความสามารถพิเศษเพื่อการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้  การได้มาประกวดทำให้รู้สึกกล้าแสดงออกมากขึ้น จากปกติเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูด อยากบอกเพื่อนๆว่าให้ลองมาเวทีนี้ดู เพราะเวทีเป็นเวทีที่ให้โอกาสทุกคนได้แสดงความสามารถ และเชื่อว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดีเหมือนกับตนเอง

                น.ส.กัลยกร สุรินทร์ต๊ะ“ปุยฝ้าย” TI 076 หนึ่งในผู้เข้าประกวดกล่าวว่ากล่าวว่า มาประกวดเวที TO BE NUMBER ONE IDOL เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกมาประกวดในรุ่นที่ 13 ตนเองเป็นคนชอบร้องเพลงและเต้นพอได้บ้าง จึงได้เข้ามาประกวดและอยากลองพิสูจน์ตัวเองดูว่าเราจะทำได้หรือไม่ มองว่าการมาประกวดในเวทีนี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้กับเราและสามารถนำมาใช้เป็นความสามารถพิเศษต่อยอดให้กับเราได้ สำหรับตนเองคิดว่าได้รับประสบการณ์ที่ดีในการพัฒนาตนเองทั้งการร้อง การเต้น อยากบอกเพื่อนๆว่าให้ลองเข้ามาพิสูจน์ความสามารถของตัวเองในเวทีนี้ดู ถ้าเพื่อนๆชอบร้องเพลง ชอบการเต้น การแสดงออก ให้ลองมาแสดงศักยภาพดูสักครั้ง แม้จะไม่ได้รับเลือกก็ไม่เป็นไรถือเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับทุกคน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *