กรมควบคุมโรค ห่วงคนไทยหลงเชื่อ อาหารเสริม เพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกันซีดี 4 ในผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี การรักษาที่ถูกต้อง คือ การกินยาต้านไวรัส รักษาฟรี ครอบคลุมทุกสิทธิการรักษา

กรมควบคุมโรค ห่วงคนไทยหลงเชื่อ อาหารเสริม เพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกันซีดี 4 ในผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี การรักษาที่ถูกต้อง คือ การกินยาต้านไวรัส รักษาฟรี ครอบคลุมทุกสิทธิการรักษา

      กรมควบคุมโรค เตือนอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม อวดอ้างสรรพคุณ มีนวัตกรรมเพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกันซีดี 4 จนสามารถหยุดยาต้านไวรัสได้ เน้นย้ำแนวทางการรักษาเอชไอวีที่ได้ผลดีที่สุด คือ หากทราบผลการติดเชื้อ แนะนำเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วด้วยยาต้านไวรัส กินยาสม่ำเสมอ พบแพทย์ตามนัด และติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง ที่โรงพยาบาลภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั่วประเทศ รักษาฟรี ครอบคลุมทุกสิทธิการรักษา

      วันนี้ (8 กรกฎาคม 2567) นายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่าจากกรณีข่าวในโซเชียลมีเดีย ที่อวดอ้างว่ามีนวัตกรรมที่ใช้รักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกันซีดี 4 จนสามารถหยุดยาต้านไวรัสได้ ซึ่งกรมควบคุมโรคขอแนะนำและเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อเอชไอวี ไม่ควรหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ ที่ได้มาตรฐานยืนยัน และแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบัน คือ การรักษาด้วยยาต้านไวรัสเท่านั้น เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด ยาต้านไวรัสจะไปทำการยับยั้งการแบ่งตัวและยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อเอชไอวี ถ้าหยุดกินยาเมื่อไหร่ จะทำให้เชื้อเอชไอวีแบ่งตัวเพิ่มจำนวน ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงและมีโอกาสป่วยได้ อีกทั้ง การรักษาการติดเชื้อเอชไอวี ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ซึ่งประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ  การรักษาด้วยยาต้านไวรัส และการดูแลรักษาด้านอื่นๆ ที่จำเป็นเฉพาะสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีแต่ละราย ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จำเป็นต้องดูแลควบคู่กัน เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี
      นายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกินยาต้านไวรัสตรงเวลาทุกวัน ต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ จะลดปริมาณไวรัสในเลือดและเพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกันซีดี 4 ซึ่งระดับเซลล์ภูมิคุ้มกันซีดี 4 ที่เกิน 200 เซลล์/ลบ.มม. เพียงพอในการป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคฉวยโอกาสได้ นอกจากนี้ คนไทยทุกคนสามารถตรวจเอชไอวี ฟรีปีละ 2 ครั้ง ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั่วประเทศ เพียงแค่นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยื่นขอตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ตรวจฟรี รักษาฟรี ครอบคลุมทุกสิทธิการรักษา ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้มีความเสี่ยงจะได้รับการตรวจ เพื่อทราบสถานะการติดเชื้อของตนเอง และเข้าสู่กระบวนการรักษาที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี และใช้ชีวิตได้อย่างปกติต่อไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค กรมควบคุมโรคห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ข้อมูลจาก : กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 8 กรกฎาคม 2567

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *