
โรคน้ำกัดเท้า คือโรคอะไร
รศ.พญ.จรัสศรี ฬียาพรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยและภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า โรคน้ำกัดเท้า หรือฮ่องกงฟุต คือโรคที่เกิดจากความอับชื้นจากการสัมผัสน้ำ ทำให้มีการอักเสบที่ผิวหนัง มักพบลักษณะการเปื่อยยุ่ยที่ง่ามนิ้วเท้า หากต้องสัมผัสน้ำเป็นระยะเวลายาวนาน ผิวหนังที่เท้าจะมีการอักเสบแดง ลอกและคัน ผู้ป่วยบางรายมีการติดเชื้อราที่เท้าหรือง่ามนิ้วเท้าร่วมด้วย ซึ่งเชื้อราที่พบบ่อยว่าเป็นสาเหตุ คือเชื้อกลากและเชื้อยีสต์แคนดิดา
อาการของโรคน้ำกัดเท้า
ผู้ป่วยจะคันตามซอกนิ้วเท้าและผิวหนังเท้าลอกออกเป็นขุยๆ ถ้าติดเชื้อราจะมีลักษณะผื่นเป็นวงหรือหนาตัวขึ้นที่เท้า บางครั้งอาจมีอาการรุนแรง ผิวหนังที่เท้าเกิดพุพองเป็นตุ่มน้ำหรือตุ่มหนองได้ บริเวณที่พบบ่อยจะเกิดตรงซอกนิ้ว แต่ก็สามารถเกิดที่ฝ่าเท้าได้เช่นกัน
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อราที่เท้าครึ่งหนึ่งมักติดเชื้อราที่เล็บเท้าร่วมด้วย ซึ่งจะมีลักษณะเป็นเล็บที่หนาตัวขึ้นหรือมีสีเล็บที่เปลี่ยนไป นอกจากนั้นผิวหนังอักเสบที่เปื่อยยุ่ยที่ซอกนิ้วเท้า อาจเป็นทางเข้าของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังได้ เช่น โรคไฟลามทุ่ง หรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ เป็นต้น
การรักษาโรคน้ำกัดเท้า
การรักษาที่สำคัญคือการรักษาสุขอนามัยของเท้า โดยล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่และเช็ดให้แห้ง เน้นเช็ดซอกนิ้ว ร่วมกับโรยแป้ง ใส่ถุงเท้าสะอาดไม่เปียกชื้น ถ้ารองเท้าเปียกควรเปลี่ยน ไม่ควรใส่คู่เดิมที่อับชื้นทุกวัน เลี่ยงสัมผัสน้ำบ่อยหรือเป็นระยะเวลายาวนาน หากจำเป็นควรใส่รองเท้าบู๊ต และรีบเช็ดให้แห้งทันที
การรักษาโรคเชื้อราที่เท้าส่วนใหญ่จะเป็นยาทารักษาเชื้อรา ซึ่งต้องทายานานประมาณ 4 สัปดาห์ ส่วนของยารับประทานต้านเชื้อราจะพิจารณาในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อที่เล็บหรือติดเชื้อที่ผิวหนังส่วนอื่นเป็นบริเวณกว้างร่วมด้วย หากติดเชื้อราร่วมด้วย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว หรือเสื้อผ้า และเมื่อไปตามที่สาธารณะ ควรใส่รองเท้าแตะเพื่อป้องกันการแพร่หรือติดเชื้อรา ถ้าในครอบครัวมีอาการคล้ายกัน ควรพามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษา