กรมสุขภาพจิต ห่วงใยการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชน พร้อมแนะวิธี 5 วิธีคลายเครียด เมื่อเสพข่าวสะเทือนใจเพี่อห่างไกลจากภาวะเครียดจากการเสพข่าว (Headline Stress Disorder)

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชน พร้อมแนะวิธี 5 วิธีคลายเครียด เมื่อเสพข่าวสะเทือนใจเพี่อห่างไกลจากภาวะเครียดจากการเสพข่าว (Headline Stress Disorder)


วันนี้ (15 ตุลาคม 2567) กรมสุขภาพจิต ชี้สถานการณ์การรับข่าวสารทางสื่อออนไลน์ทั้งในประเด็นความสูญเสียและความขัดแย้งของประชาชนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความเครียด อาจนำไปสู่ภาวะเครียดจากการเสพข่าว (Headline Stress Disorder) ส่งผลต่อการใช้ชีวิตระยะยาว


นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ภาวะเครียดจากการเสพข่าว หรือ Headline Stress Disorder เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลได้รับข้อมูลข่าวสารจำนวนมากจนส่งผลให้เกิดความเครียด วิตกกังวล หรือรู้สึกหนักใจ โดยเฉพาะเมื่อข่าวสารเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบทางลบ เช่น ภัยธรรมชาติ การเมือง ความรุนแรง หรือเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ อาการนี้พบได้มากเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลาและมีการเผยแพร่ข้อมูลที่หลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผ่านสื่อออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย ซึ่งส่งผลให้บุคคลรับทราบข่าวสารเรื่องเดียวกันจำนวนมาก เกิดภาวะความเครียดสะสม อาการที่พบบ่อยในผู้มีภาวะเสพข่าวคือ ตึงเครียด วิตกกังวล เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ เกิดขึ้นเมื่อติดตามข่าวสารที่เป็นลบหรือที่เกี่ยวข้องกับวิกฤติความเหนื่อยล้าทางจิตใจ รู้สึกว่าต้องเผชิญกับข่าวที่กดดันและทำให้หมดพลัง การนอนไม่หลับ จากความกังวลเรื่องข่าวหรือการรับรู้ปัญหาตลอดเวลาภาวะหลีกหนีสังคม หลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือกิจกรรมที่เกี่ยวกับข่าวสารรู้สึกสิ้นหวัง เมื่อเห็นข่าวร้ายเป็นประจำ


นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ผลกระทบจากภาวะเสพข่าวจนเครียด สามารถมีผลทั้งทางร่างกายและจิตใจ และชีวิตประจำวันของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้ 1. ผลกระทบทางจิตใจจากการเสพข่าวที่มีเนื้อหาด้านลบเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ทำให้เกิดภาวะวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า เหนื่อยล้า และรู้สึกสิ้นหวังต่อสถานการณ์นำไปสู่ภาวะความเครียดสะสม และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาว อาจทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ทำให้มีภาวะเหนื่อยล้าและหมดพลังทางจิตใจ 2. ผลกระทบทางร่างกาย ความเครียดจากข่าวสารอาจทำให้นอนไม่หลับ บางครั้งมีภาวะปวดหัว กล้ามเนื้อตึงและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย 3. ผลกระทบต่อพฤติกรรม บางรายอาจไม่สามารถหยุดติดตามข่าวสารได้ เนื่องจากความกังวลว่าตนจะพลาดข้อมูลสำคัญทำให้ขาดสมาธิส่งผลต่อการทำงาน การเรียน หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน 4. ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ความเครียดจากข่าวสารอาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันหรือโกรธกันในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน หากมีความเห็นที่แตกต่างกัน
นายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต พรมสีดา กล่าวว่า ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตจึงขอแนะนำแนวทางจัดการภาวะเครียดจากการเสพข่าวด้วยตนเองโดยสามารถทำได้ 5 วิธีโดย 1. จำกัดเวลาในการติดตามข่าวสาร เช่น กำหนดช่วงเวลาที่จะรับข่าวในแต่ละวัน 2. เลือกแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ระวังข่าวลวง 3. พักผ่อนและทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือทำสมาธิ 4. หาเวลาในการพูดคุยกับผู้อื่น เพื่อแบ่งปันและระบายความรู้สึก 5. ฝึกการควบคุมอารมณ์และความคิด โดยใช้เทคนิคการหายใจเพื่อผ่อนคลายหรือฝึกสติแบบง่าย ๆ ซึ่งปัยหานี้ไม่ใช้โรคจิตเวชแต่เป็นปัยหาที่สามารถจัดการได้ด้วยการปรับแนวคิดและเพื่อรับมือกับข่าวสารอย่างมีสติ
การเข้าใจผลกระทบเหล่านี้สามารถช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการการเสพข่าวสารอย่างมีสติ และการดูแลสุขภาพจิตในยุคที่ข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลอย่างรวดเร็ว หากรับข่าวสารแล้วเกิดความเครียดไม่สบายใจกรมสุขภาพจิตมีช่องทางปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตสำหรับประชาชนสามารถขอรับคำปรึกษาได้โดย ตรวจสุขภาพใจกับ MENTAL HEALTH CHECK-IN หรือ DMIND บนแอพพลิเคชั่น หมอพร้อม Sati App สามารถดาวน์โหลดฟรี หรือสายด่วนสุขภาพจิต โทร 1323 ตลอด 24 ชม.


(15 ตุลาคม 2567)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *